“ทวี” โต้ “โรม” ดีลแลกประเทศ-ปีศาจ เป็นวาทกรรมจากจินตนาการ แจง “ทักษิณ” เข้าเรือนจำก่อนรับตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม ลั่นทำทุกอย่างตามสิทธิรธน.

“ทวี” โต้ “โรม” ดีลแลกประเทศ-ปีศาจ เป็นวาทกรรมจากจินตนาการ แจง “ทักษิณ” เข้าเรือนจำก่อนรับตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม ลั่นทำทุกอย่างตามสิทธิรธน.

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษ ที่มี นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กับคณะ จำนวน 165 คน เป็นผู้เสนอ

เวลา 12.00 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ชี้แจงว่า ตนได้ถูกพาดพิงโดยนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ที่ได้ระบุว่า รมว.ยุติธรรมอยู่ในตำแหน่งอย่างเหนียวแน่น เนื่องจากเรื่องไม่โปร่งใสชั้น 14 ยืนยันว่าทางกระทรวงยุติธรรมต้องเชื่อมั่น เข้าถึงและเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ ซึ่งตนแอบหวังว่า ท่านน่าจะเป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพของประเทศ แต่สิ่งที่ท่านพูดมาตนก็เสียใจ เพราะท่านช่างตัดตอน จินตนาการ และใช้วาทกรรม ในกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ได้เกี่ยวกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เลย เพราะนายทักษิณได้รับพระราชทานอภัยโทษ ไปเมื่อวันที่ 31 ส.ค.2567 ตอนนั้นนางสาวแพทองธารยังไม่ได้เป็นนายกฯ

พ.ต.อ.ทวีกล่าวต่อว่า การที่นายรังสิมันต์อ้างว่ามีดีลแลกประเทศ และขยายว่ามีดีลปีศาจ ตนไม่รู้ว่าก้นบึ้งของจิตใจท่าน ท่านจะหมายถึงอะไร ถ้านายรังสิมันต์ดูให้ดี เป็นวาทกรรม และเป็นเรื่องที่นายรังสิมันต์จินตนาการเอง ท่านต้องยอมรับว่าหลังจากการยุบสภาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ การเลือกตั้งเมื่อปี’66 พรรคที่ได้คะแนนมากที่สุดคือพรรคก้าวไกล ปัจจุบันเป็นพรรคประชาชน

ช่วงนี้ นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาชน ประท้วงว่า ขอให้ประธานควบคุมการประชุม นายรังสิมันต์ถามถึงนายกฯ ในฐานะประจักษ์พยาน นายกฯก็นั่งอยู่ ทำให้นายภราดรวินิจฉัยว่า สิ่งที่นายรังสิมันต์อภิปราย แทบจะเกี่ยวข้องกับกระทรวงยุติธรรมทั้งหมด และแทบจะไม่เกี่ยวข้องกับนายกฯ ฉะนั้น จึงเป็นสิทธิที่ รมว.ยุติธรรมใช้สิทธิในการชี้แจง อาจจะไม่ถูกใจ แต่ขอให้ฟัง

จากนั้น พ.ต.อ.ทวีชี้แจงต่อว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นดีลแลกประเทศ ส่วนท่านจินตนาการอย่างไรในเชิงลึก ตนไม่ใช่คนแบบท่าน ตนรู้อะไรลึกกว่าท่าน พูดไปคนของท่านก็จะเสียหาย ตนก็จะไม่พูด ส่วนกรณีของนายทักษิณ ตอนที่ท่านเข้ามารัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล และตนก็ไม่รู้ว่าเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหรือไม่ นายทักษิณเข้ามาก็มีอาการที่เล่าว่าป่วย และส่งโรงพยาบาลตำรวจ แต่สิ่งที่น่าเสียใจคือนายรังสิมันต์ จบนิติศาสตร์ และทราบหรือไม่ว่าในกฎหมายราชทัณฑ์ คนที่เจ็บป่วยต้องไปส่งรักษาพยาบาลเขาให้ถือว่าสถานที่รักษาพยาบาลคือเรือนจำ ท่านไม่สะใจใช่หรือไม่ ต้องการให้ถูกทรมานหรืออย่างไร เราถือว่าโรงพยาบาลที่ไปรักษาตอนนี้ปีหนึ่งมีผู้ต้องขังเกือบแสนคนที่ต้องไปพัก เราถือว่าสถานที่เหล่านั้นเป็นที่ควบคุม กฎกระทรวงก็เขียนว่าเป็นที่ควบคุมพิเศษ ซึ่งเป็นสิทธิของโรงพยาบาลจะจัด และถ้าท่านเกิดหนีจากที่ควบคุมก็เหมือนหนีจากเรือนจำ

พ.ต.อ.ทวีชี้แจงต่อว่า ที่บอกว่าไม่มีสักวันเดียวที่นายทักษิณติดคุก ต้องการวาทกรรมเพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิดใช่หรือไม่ การคุ้มครองสิทธิพื้นฐานของคนท่านบอกว่าเป็นอภิสิทธิ์ ท่านพูดไม่จบ เมื่อนายทักษิณเข้าไป ตนเข้ามาสัก 1 เดือน ตนก็มีความคิดว่าระหว่างนี้นายทักษิณอยู่โรงพยาบาลตลอด สังคมจะมองว่าเป็นการช่วยเหลือกันหรือไม่ ท่านทราบหรือไม่ว่าในรัฐธรรมนูญหมวดหน้าที่ของรัฐ บอกว่าประชาชนเจ็บป่วยก็ต้องไปรักษาพยาบาล นายทักษิณเป็นประชาชนก็ต้องได้รับการรักษาแต่ท่านถูกควบคุมอยู่ไปไหนไม่ได้ เมื่อรัฐธรรมนูญเขียนให้รัฐต้องปฏิบัติตาม และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตนคิดว่าจะเอาท่านกลับมาได้หรือไม่ กฎหมายไม่มีให้เลย ต้องทำตามความเห็นของแพทย์ เมื่อครบ 120 วันต้องมีเรื่องรายงานมาที่นายกฯ

พ.ต.อ.ทวีกล่าวอีกว่า ทราบหรือไม่ว่าอธิบดีกรมราชทัณฑ์เป็นมืออาชีพ ไม่รู้จักกับนายทักษิณ และเมื่อครบวันที่ 22 ก.พ. เรือนจำพิเศษกรุงเทพตั้งคณะแพทย์ 5 คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ต้องไปดูว่ากลับมาเรือนจำได้หรือไม่ ปรากฏว่าคณะก็ให้ขึ้นกับดุลพินิจแพทย์ผู้รักษา และอธิบดีกรมราชทัณฑ์มีหนังสือโต้ตอบไปยังโรงพยาบาลตำรวจ ก็อนุมัติให้อยู่โรงพยาบาลต่อเพราะหมอที่โรงพยาบาลเห็นว่าให้อยู่โรงพยาบาลต่อ ส่วนเรื่องเจ้าพนักงานกระทำชอบหรือไม่ชอบนั้น มอบให้อยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และเรื่องของนายทักษิณ องค์กรอิสระเกือบทุกองค์กรเข้ามาตรวจสอบ

“ท่านต้องเข้าใจว่า การที่นายทักษิณอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ที่กฎหมายได้เขียนว่าเป็นเรือนจำแล้วถูกควบคุม แต่ท่านบอกว่าไม่ถูกควบคุม ท่านทำตัวใหญ่กว่ากฎหมายใช่หรือไม่ และที่ผมไม่อยากพูดมากไปกว่านี้ แพทยสภา ในเรื่องของหมอ ความเจ็บป่วยท่านกับผมก็ไม่มีใครรู้ดี และมีกฎหมายเรื่องจรรยาบรรณแพทย์ เรื่องอยู่ที่แพทยสภา รับเรื่องไว้ปีกว่าแล้ว ยังต้องสอบสวน แต่ท่านรับเรื่องไปแป๊บเดียว ท่านวินิจฉัยหมดเลย ว่าดีลปีศาจ ท่านมีอะไรอยู่ในใจ ใครคือปีศาจของท่าน” พ.ต.อ.ทวีกล่าว

พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ที่ท่านโน้มน้าวอะไรมาทั้งหมด ท่านสมมุติเอาเอง เพราะวันนี้เราเตรียมการที่จะไปให้การกับ ป.ป.ช. แต่ยังไม่เรียกราชทัณฑ์เลย อย่าไปดูแคลน ป.ป.ช. ท่านอย่าเข้าใจว่าแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ไม่มีความรู้ ไม่อยากให้ด้อยค่าคนอื่น ความจริงไม่มีอะไรเลย และเมื่อเรื่องเข้า ป.ป.ช. แม้แต่กรรมการ ป.ป.ช. ยังเอาเรื่องมาเปิดเผยไม่ได้ แต่วันนี้ท่านสมมุติไปทั่ว