เสื้อแดง 2,000 คน แห่รอรับ “ทักษิณ” ลั่น ผมแบกทุกข์ประชาชน จะทำทุกอย่างให้เข้ายุคศิวิไลซ์ให้ได้ ขออย่าตกใจ สหรัฐฯ ระงับวีซ่า ชี้เข้าใจกันดี

เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2568 ที่อาคารหอประชุม อนุสรณ์ 100 ปี คุณย่าประสาท รักเลี้ยง มหาวิทยาลัยพิษณุโลก อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงจากพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ประมาณ 2,000 คน มารอตอนรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเดินทางมาพบปะพูดคุยกับกลุ่มคนเสื้อแดง

จากนั้นเวลา 13.00 น. นายทักษิณ ได้เดินทางมาถึง โดยให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ใช่เป็นเรื่องหาเสียง แต่เป็นการมาเยี่ยมเยียน ซึ่งจะเน้นความรักความสามัคคีในประเทศ เพราะประเทศต้องการคนหันหน้าเข้าหากัน ไม่ได้มาปลุกให้เกิดความขัดแย้งในประเทศ

เมื่อถามถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในส่วนข้อบังคับที่นายกฯ สามารถพาคนนอกเข้าฟังอภิปรายได้นั้น นายทักษิณ กล่าวว่า กลัวว่าจะไม่เหมาะสม และไม่มีการตั้งวอร์รูม เพราะวอร์รูมติดตัวตนอยู่แล้ว ไปไหนก็วอร์รูมที่นั่น แต่ขอดูเหตุการณ์ก่อน เพราะขอกันกินเล็กๆ น้อยๆ ก็ปล่อยเขาเถอะ

ซึ่งทางประธานสภาฯ ไฟเขียวให้เป็น สทร.ได้ โดยในความรู้สึกคนที่ไม่ชอบตน เขาก็เอาคำพูดที่ตนพูดไว้ว่า สทร. คือเสือกทุกเรื่อง แต่สำหรับคนที่ชอบผม คือสุดที่รัก

เมื่อถามกรณีสหรัฐฯ ระงับวีซ่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทย ทั้งในปัจจุบันและอดีต ที่รับผิดชอบหรือร่วมมือในการส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนกลับจีน นายทักษิณ กล่าวว่า เรื่องนี้ข้อมูลที่ทางสหรัฐฯ มี อาจจะไม่ได้อัพเดต แต่ต้องยอมรับจุดยืนการรักษาสิทธิมนุษยชน เราอธิบายให้เขาฟังเยอะแล้วว่าคนเหล่านี้ถูกละเมิดมา 11 ปี ที่ผ่านมาไม่มีใครมาขอรับ อเมริกาและยุโรป ไม่ขอรับ

ซึ่งเราดูว่าประเทศต้นกำเนิดคือจีน เขามีบัตรประชนคนจีนชัดเจน ทางจีนรับรองคนเหล่านี้กลับไปไม่ถูกดำเนินคดี ทางผู้ใหญ่พูดคุยกันแล้วให้กลับไปอยู่กับครอบครัว

เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรให้ทางสหรัฐฯ เข้าใจ นายทักษิณ กล่าวว่า ทางสหรัฐฯ เข้าใจดี แต่เขาก็ทำหน้าที่ของเขา อย่าไปตกใจมาก อย่ามองเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเรามีการพูดคุยกันทางการทูต ลองสังเกตดูว่า สภาอียู ออกมาประณามเรา แต่ฝ่ายบริหารเจรจา FGA ต่อไป ไม่มีอะไร เขาแยกส่วนกัน ไม่มีอะไรน่าตกใจ

จากนั้น นายทักษิณ ขึ้นเวทีพูดคุยกับประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดงว่า วันนี้ครบ 17 ปี และวันที่ 17 ได้มาหากัน ก่อนอื่นต้องคารวะหัวใจพวกเราที่เด็ดเดี่ยวต่อสู้ เพื่ออยากเห็นความเป็นธรรมในบ้านเมือง ที่สำคัญคือไม่เคยลืมตน กลับมาก็อยากเจอตนอีก ตนจึงต้องมา

“ต่อไปเพื่อไทยจะแข็งแรงขึ้น มีพวกท่านคอยเป็นกำลังใจสนับสนุนอยู่ วันนี้เราไม่ต้องไปต่อสู้อะไรในเรื่องการเมือง ผมอยากเห็นทุกฝ่ายมองประเทศไทยเป็นหนึ่ง วันนี้เราจะต้องแข็งแรง นิสัยเก่าๆ ที่ชอบอิจฉาริษยา ทำงานเป็นทีมไม่ได้ ต้องเบาลง ไม่อย่างนั้นประเทศจะไม่แข็งแรง ผมจะถูกใส่ร้ายป้ายสีอย่างไรก็แล้วแต่ ผมให้อภัย ผมรักประชาธิปไตย รักความเป็นธรรม อยากเห็นพี่น้องคนอยู่อย่างสันติมีความเป็นธรรม” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวว่า ทั้งนี้ ต้องอาศัยพี่น้องทำให้การเมืองเข้มแข็ง เรื่องปัญหาของประเทศตนรับไว้ และรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น แต่ขบวนการแก้ปัญหาใช้เวลาและยากกว่าเดิม เพราะทหารวางระบบไว้แย่พอสมควร เพราะปฏิวัติทีก็ถอยไปที ตนรับทุกข์ประชาชนมาแบก ฉะนั้น ตนจะทำทุกอย่าง ต้องทำให้เข้ายุคศิวิไลซ์ให้ได้