105 สว. ยื่นป.ป.ช.สอบ ‘ทวี-ยุทธนา’ ผิด ม.157 รับสอบโพยฮั้วทั้งที่ไม่มีอำนาจ

105 สว. ยื่นป.ป.ช.สอบ ‘ทวี-ยุทธนา’ ผิด ม.157 รับสอบโพยฮั้วทั้งที่ไม่มีอำนาจ ‘ฉัตรวรรษ’เปรียบอธิบดีดีเอสไอ เป็นแมวมีคนเลี้ยงคอยกระตุก เตือนจับปลาในน้ำ ระวังตายเพราะว่ายน้ำไม่เป็น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 มี.ค.2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. นำทีม สว. 81 คนมายื่นต่อ ป.ป.ช. เพื่อเอาผิด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

เป็นผลสืบเนื่องจากคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) มีมติรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ ในฐานความผิดฟอกเงิน โดยเห็นว่าไม่มีอำนาจ ซึ่งในหนังสือยื่นคำร้องมี สว.ร่วมลงชื่อจำนวน 105 คน และมีนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการ ป.ป.ช. เป็นตัวแทนรับหนังสือ

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า มายื่นให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของรมว.ยุติธรรม และอธิบดีดีเอสไอ กรณีการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบและมีเจตนาพิเศษ จงใจกล่าวหากลั่นแกล้ง สว. เพื่อให้ได้รับโทษทางอาญา ยืนยันว่าพวกตนมาตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในมาตรา 107 และตามระเบียบ กกต. รวมถึงพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. ตั้งแต่ขั้นตอนการรับสมัคร และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด อาจมีข้อสงสัยว่าเหตุใดพยานหลักฐานจากข้อกล่าวหาต่างๆ จึงมีเป็นจำนวนมาก

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวต่อว่า ตนในฐานะอดีตพนักงานสอบสวน ตระหนักได้ว่าหลักฐานเพียงพอหรือไม่ในการตั้งข้อกล่าวหา โดยเฉพาะความผิดข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร ดังนั้น สว.รับไม่ได้ เพราะ สว.มีทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิจากหลายสาขาอาชีพ และถือว่าองค์กรที่มีหน้าที่ตรวจสอบการได้มาซึ่ง สว. คือกกต.)ตามที่รัฐธรรมนูญและพ.ร.ป.กำหนดไว้

ตนเข้าใจว่าเป็นธรรมดา เมื่อมีคนผิดหวัง ก็ไปร้องเรียนผู้ที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งทุกคนใช้วิจารณญาณดำเนินการได้ แต่การกล่าวหา สว.ชุดนี้ว่ามีการฮั้ว เรารับไม่ได้ กำลังให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาและดำเนินการต่อไป ขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐานทุกคนที่กล่าวหา

การดำเนินการของ รมว.ยุติธรรมและอธิบดีดีเอสไอ ทำให้พวกตนถูกกล่าวหาและถูกดูหมิ่นจากประชาชนว่ามีที่มาไม่สุจริต นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า กกต.มีหลักฐานเรื่องร้องเรียนการเลือก สว.มากกว่าที่ดีเอสไออ้าง เพราะ กกต.เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนมาก่อนแล้ว

กกต.ใช้ความละเอียดรอบคอบ ระมัดระวังในการกล่าวหาต่อผู้ที่ได้รับการรับรองเป็น สว.ไปแล้ว ไม่เหมือนผู้ร้องที่อยากเป็นเร็ว อยากขยับขึ้นมา ก็กล่าวหาว่ากกต.ทำงานล่าช้า ตนอยากถามว่า หาก กกต.จะต้องไปตรวจสอบผู้สมัคร 40,000 คน จะใช้เวลาเท่าไหร่ 6-7 เดือนจะเป็นไปได้หรือไม่

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า หากดีเอสไอสืบสวนแล้วรู้ว่าไม่มีอำนาจดำเนินการ ก็ควรส่งพยานหลักฐานให้ กกต. ตนไม่ทราบว่าดีเอสไอจะเก็บไว้ทำไม วันดีคืนดีพวกตนทำงานมีประสิทธิภาพ แต่การเมืองไม่พอใจ ไม่รู้ใครบัญชาการ ใครคุมกระทรวงยุติธรรม

ความยุติธรรมในประเทศก็เริ่มไม่เกิดขึ้น ความระส่ำระสายเกิดขึ้นกับทุกองค์กร จากผู้นำจิตวิญญาณบางคน ที่สามารถควบคุมฝ่ายการเมืองได้ ดังนั้น ฝ่ายการเมืองที่เข้ามากำกับดูแลดีเอสไอ ถูกครอบงำหรือไม่ ก็ขอให้สื่อพิจารณาเอง

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ยังยกตัวอย่างเปรียบเทียบว่า คนเลี้ยงสุนัขและแมว กับการทำหน้าที่ของอธิบดีดีเอสไอที่รับพิจารณาทั้งที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ และทำตามคำสั่ง อาจพบจุดจบที่ไม่ดี

คนเลี้ยงสุนัขก็เลี้ยงทั้งดุและไม่ดุ ทั้งอ่อนโยน อ่อนไหวใช้สุนัขไปภารกิจต่างๆ ท่านคงทราบดีว่าผู้เลี้ยงต้องมีอันจะกิน ขณะเดียวกันคนเลี้ยงแมวก็เอาแมวไว้ไล่จับหนู สีอะไรก็จับหนูได้หมด แต่แมวตัวนี้มันพิเศษ มันมีปลอกคอ มันมีเชือกกระตุกให้มันเลือกจับหนูได้ เป็นการล็อกว่าหนูนี่จับ หนูนี่ไม่จับตรงนี้ มันอยู่ที่คนสั่งเช่นกัน

“คดีนี้เหมือนกัน มันนึกว่าแมวนอกจากจับหนูอย่างเดียวแล้ว แมวกินปลา มันก็โยนแมวลงไปในน้ำ เพื่อให้ไปจับปลากิน แต่ลืมนึกไปว่าแมวว่ายน้ำไม่เป็น จะไปไล่จับปลาได้อย่างไร ผลสุดท้ายแมวก็จมน้ำตายเหมือนอธิบดีดีเอสไอ ฉะนั้น ท่านมีปลอกคอ ท่านคิดว่าเอาตัวรอดได้ เชิญสอบสวนไปเราไม่ว่า สักวันนึงคนเลี้ยงแมวไม่อยู่แมวจะอดตาย จะติดคุก” พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากดีเอสไอ เรียกไปให้ปากคำ จะไม่ไปใช่หรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า ตราบใดที่ผู้สอบสวนยังไม่มีอำนาจตามกฎหมาย เราก็ถือเป็นผู้บริสุทธิ์ จะมายัดเยียดว่าพวกตนไม่บริสุทธิ์ไม่ได้ เราทำงานมา 7-8 เดือน ก่อนหน้านี้ กกต.ก็รับรองว่า เราสุจริต เที่ยงธรรม โปร่งใส

เมื่อถามย้ำว่าการที่เปรียบเทียบอธิบดีดีเอสไอ เป็นแมวจมน้ำตาย จะสื่อถึงการดำเนินการขั้นสูงสุดเลยหรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า หูของใครดูเอาว่าใครเป็นแมวใครเป็นใครดูเอาเอง และย้ำว่าตราบใดที่เรายังปฏิบัติหน้าที่เป็นสว. สิ่งใดที่กระทบกับเรา เราก็จะไม่นิ่งเฉย แต่เราจะไม่ออกสื่อทำอย่างสุขุม รอบคอบ

เมื่อถามถึงกรณีที่เสนอให้ยุบกรมสอบสวนคดีพิเศษ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นการเสนอขึ้นมาระหว่างการอภิปรายในวุฒิสภา เพราะตนเป็นคนเสนอญัตติ ปัญหากระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งขณะนี้ กมธ.กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ได้นำไปศึกษาแล้ว

เมื่อถามว่าคดีนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนสีของ สว.ให้ไปเป็นสีแดง พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า เป็นเรื่องของนักวิเคราะห์ข้างตู้ ตนไม่ฟังและไม่ทราบ แถวภาคอีสานเขาเอาไว้ดูมวย จะวิเคราะห์อย่างไรเป็นเสรีภาพ แต่อย่าไปกลั่นแกล้งใคร

เมื่อถามว่ามีการมองว่าเป็นเกมการเมือง พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ถามกลับว่า ทำไมไม่มองว่า สว.ถูกกลั่นแกล้ง ประเด็นการเมืองไม่เกี่ยวกับเรา เราไม่ได้อยู่ในพรรคการเมือง แต่รู้อย่างเดียววุฒิสภามีหน้าที่ปกป้องสถาบัน