ผบ.ตร.จี้ ตามจับ “ยิ่งลักษณ์” ชงตำรวจสากล ออกหมายน้ำเงิน

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่ปรากฏภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในสื่อสังคมออนไลน์ ภายหลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกหมายจับ หลังหลบหนีไม่เข้าฟังคำพิพากษาคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ขอเรียนชี้แจงดังนี้ “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ ที่ผ่านมาได้ประสานความร่วมกับตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล ซึ่งมีประเทศสมาชิก 192 ประเทศ ทั้งที่มีและไม่มี สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน กับไทย ให้ช่วยแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการพบตัว หรือ เบาะแส ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตำรวจสากลพิจารณาออกหมายประเภทต่างๆ ที่มีมาตรการความเข้มงวดขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่เป็นเป้าหมายที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปรากฏตัวหรือมีข้อมูลการเดินทางเข้า-อออก เช่นประเทศ อังกฤษ และ สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ อย่างไรก็ตามหากมีการพบตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ที่ประเทศใด ก็จะมีการแจ้งข้อมูลให้กับทางการไทยทราบทันที เพื่อทำเรื่องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน หรือใช้วิธีทางการทูตในการนำตัวกลับมาประเทศไทยต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอนในทุกมิติทั้งหมดแล้ว ขณะนี้กองการต่างประเทศได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมให้ตำรวจสากลพิจารณาออกหมายสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นหมายแจ้งตำหนิรูปพรรณ และแหล่งที่อยู่ ” รองโฆษกตร.กล่าว

สำหรับกรณีที่ปรากฏภาพและข้อมูล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในโลกโซเชียลมิเดีย ที่ระบุว่าอยู่ในประเทศจีนนั้น พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ตร. ได้ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ทางการประเทศจีน ให้ข้อมูลการเดินทางของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ฯ ว่าได้มีการเข้า-ออกประเทศจีนช่วงใดบ้าง เดินทางด้วยสายการบินใดหรือเครื่องบินส่วนตัว และใช้พาสปอร์ตชนิดใด ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศได้บันทึกชื่อของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นบุคคลต้องเฝ้าระวัง สำหรับการพิจารณาออกหนังสือเดินทาง และยกเลิกหนังสือเดินทางของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จำนวน 4 เล่ม ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ แจ้งให้แต่ละประเทศทราบแล้ว และทางกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แจ้งให้ประเทศสมาชิกตำรวจสากลทั่วโลกทราบแล้ว เพื่อป้องกันการนำหนังสือเดินทาง เพื่อเฝ้าระวังการนำหนังสือเดินทางที่ถูกยกเลิกกลับมาใช้เดินทางอีก

รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินการในทุกมิติอย่างรอบคอบ ครบถ้วน และเร่งรัดติดตามผลมาโดยตลอด ที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปมาก สำหรับในคดีนี้ขอยืนยันว่าดำเนินการอย่างเข้มงวด เช่นเดียวกับคดีอาชญากรรมอื่นๆ ไม่มีการเลือกปฏิบัติแต่อย่างไร แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องรอผลการตรวจสอบแหล่งข้อมูลจากหลายๆส่วน รวมทั้งข้อมูลจากต่างประเทศด้วย