14 ก.พ. 68 ภคมน ลิซ่า หนุนอนันต์ สส.พรรคประชาชน โพสต์ อย่าพยายามหาความชอบธรรมจนให้ข้อมูลผิดๆ คุณก่อแก้วบอกว่าถ้าเปิดประชุมและเข้าสู่การอภิปรายในเนื้อหา การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะถึงจุดจบ เพราะเสียง สว. ฝ่ายที่ต้องการแก้ไขมีไม่ถึง 67 เสียง ไม่ว่าลงมติอย่างไรก็แพ้
.
แต่ดิฉันยืนยันว่าที่บอกว่า “ถ้าเข้าญัตติ แล้วร่างจะตก” ไม่เป็นความจริง
1. การเดินหน้าอภิปราย ไม่ได้ทำให้ญัตติล่ม ญัตติจะล่มต่อเมื่อมีการลงมติ พรรคประชาชนเราเห็นว่าการเปิดอภิปรายจะเป็นประโยชน์
อย่างแรก พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคที่เสนอร่างแก้ไข จะได้อธิบายสังคมว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นประโยชน์อย่างไร ยิ่งประชาชนนอกสภาสนับสนุน การเดินหน้าในสภาของเราจะยิ่งมีพลัง
อย่างที่สอง จะได้แลกเปลี่ยนและคลายข้อกังวลเรื่องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
และถ้าถึงจุดที่ต้องลงมติ ถ้า สว. เข้าประชุมไม่ถึง 67 คน ก็เลื่อนการโหวตได้ตามข้อบังคับที่ 33(4) ถึงตอนนั้น ญัตติจะไม่ตก แต่จะเป็น “เรื่องค้างพิจารณา” โดยที่ยังสามารถหยิบเรื่องอื่นมาพิจารณาก่อนได้ด้วย
2. ส่วนที่คุณก่อแก้วบอกว่าจะเสนอญัตติในสมัยประชุมหน้าก็ได้ หมายถึงในเดือนกรกฎาคมหรืออีก 4 เดือนข้างหน้า คำถามของดิฉันคือถึงตอนนั้น นายกฯ จะสามารถโน้มน้าวพรรคร่วมรัฐบาลและ สว. ให้ได้จำนวนเพียงพอแล้ว ใช่หรือไม่
อยากเรียนคุณก่อแก้วแบบนี้ค่ะ การพยายามหาเหตุผลเพื่อกลอกหูตัวเองว่าไม่ได้กำลังคดงอต่อหลักการประชาธิปไตย อาจจะทำให้คุณก่อแก้วสบายใจ แต่คิดจริงๆ หรือว่าประชาชนเขาดูไม่ออก แทนที่จะทำแบบนี้ ทำไมไม่ตรงไปตรงมาให้เป็น แสดงเจตจำนงที่เคยประกาศไว้กับประชาชนในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลให้ได้
“วันนี้น่าเสียดายที่คุณก่อแก้วเริ่มใช้เครดิตของการเป็นนักต่อสู้ในอดีตมาต่ออายุตัวเองอีกคน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เครดิตนี้เหลืออยู่เท่าไร เหมือนที่ไม่รู้ว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ในสภาพเล่นสงครามสั่งสอนกันไปมา โดยไม่แคร์วาระประชาชนได้อีกนานแค่ไหน ดิฉันคิดว่าถ้ารู้ตัวเองว่าไปต่อไม่ได้ ท่านนายกฯ ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนเถอะค่ะ”