ภูมิธรรม’ ยก ฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาระดับนานาชาติต้องหารือร่วมกัน ลั่นฝ่ายค้านอย่าเอาเรื่องเล็กน้อยมาโจมตีเป็นเกมการเมือง

ภูมิธรรม’ ยก ฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาระดับนานาชาติต้องหารือร่วมกัน กำชับ กำลังพล-ยุทโธปกรณ์ช่วยแก้ไฟป่า ยกระดับซีลชายแดนสวน ฝ่ายค้านอย่าเอาเรื่องเล็กน้อยมาโจมตีเป็นเกมการเมือง ขอ ช่วยแนะนำหากเป็นทางออก รบ. พร้อมดำเนินการ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 มกราคม ที่โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น พลัสแวนด้า แกรนด์ ถนนแจ้งวัฒนะ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีปัญหาฝุ่น PM2.5 ทางกองทัพสามารถช่วยอย่างไรได้บ้าง ว่า ต้องยอมรับ และเข้าใจเรื่องฝุ่น PM2.5 เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลายประเทศมาก วันนี้เราขึ้นจุดแดง 160 ตนไปประชุมที่ประเทศเวียดนามเมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ก่อน ของเขาที่นั่น 300-400 ประเทศลาวเขาก็บอกเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด บริเวณชายแดนไทย ผมได้ประชุมเขตตรวจราชการที่ 10, 15, 16 ทางฝั่งเหนือและอีสาน ได้รับรายงานว่าจุดที่สร้างฝุ่น PM2.5 หรือการเผาอะไรต่างๆ นั้น ถือว่ากระบวนทำงานของเขาทำให้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ตนก็ได้บอกกับผู้ว่าราชการ 8 จังหวัดภาคเหนือและผู้ว่าราชการ 5 จังหวัดภาคอีสานที่ตนดูแลอยู่ ให้ดำเนินการตรงนี้อย่างจริงจัง ซึ่งจะมาสอดรับกับนโยบาบปิดซีลชายแดน

นายภูมิธรรมกล่าวว่า ส่วนใหญ่ที่เห็นจุดฮอตสปอตมันอยู่ที่นอกชายแดนในดินแดนของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งดูได้จากดาวเทียม อันนี้ก็ต้องใช้มาตรการของกระทรวงการต่างประเทศในการดำเนินการ ส่วนภายในของเราก็มีปัญหาอยู่บ้าง อย่างกรณีที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้อย่างการตัดอ้อย จริงๆ แล้วรัฐบาลพยายามใช้มาตรการการตัดสด จ่ายเงินเพิ่มเติมให้ เมื่อมาประท้วงคราวนี้เราไปดูมันก็เกิดจากการเผาอยู่ดี เราต้องมีมาตรการพูดคุยกัน เราคุยกันต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนการปฏิบัติของชาวไร่อ้อยบางส่วนได้ ตรงนี้ต้องดำเนินการต่อไป

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ก็พยามใช้มาตรการเฉพาะหน้าหลายเรื่อง ตั้งแต่การห้ามรถบรรทุกใหญ่เข้ามา การให้ปิดโรงเรียน และพยามดูเงื่อนไขหรือปัจจัยต่างๆ ส่วนทหารนั้นตนสั่งการไปแล้วว่าจะต้องดูเรื่องเครื่องมือที่เพียงพอหรือไม่ แต่อะไรที่มีอยู่แล้ว เช่น โดรน ก็จะต้องนำมาใช้ มาช่วยกันโดยเฉพาะปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้นจากจุดเริ่มต้นของไฟและไฟที่ลุกลาม ขณะนี้งบประมาณที่จัดการเรื่องไฟป่าเดิมอยู่ที่กระทรวงทรัพย์ฯ 400 กว่าล้านบาท ปัจจุบันได้กระจายไปที่ท้องถิ่นที่จะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบได้ แต่งบของส่วนกลางอาจยังไม่มากพอก็ต้องมาคุยกัน โดยตอนนี้นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยและได้ประกาศแล้ว ฉะนั้นเราจะดำเนินการเต็มที่ ทั้งการเลือกยุทโธปกรณ์หรือเลือกใช้กำลังพลมาช่วยภัยพิบัติโดยเฉพาะเหตุไฟป่าซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนกระทรวงเกษตรฯ ก็ทำเรื่องของฝนหลวงทำให้บรรยากาศเปลี่ยนแปลง กระทรวงกลาโหมก็มีส่วนช่วยเข้าไปดำเนินการอยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องคุยกันในระดับนานาประเทศ ส่วนในประเทศต้องบูรณาการร่วมกัน

เมื่อถามถึงการที่ฝ่ายค้านออกมาโจมตีรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีเรื่องการแก้ปัญหาฝุ่น โดยมีการเชื่อมโยงกับการที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปประชุมที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นายภูมิธรรมมองว่า ตนไม่อยากให้มองแยกส่วน เรื่องของประเทศไม่ได้มีเรื่องฝุ่นอย่างเดียว ยังมีเรื่องเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการไปประชุมที่ดาวอส เป็นการประชุมของคนทั้งโลกทุกประเทศในโลกเพื่อหามาตการร่วมกันที่จะดำเนินการทางเศรษฐกิจ ถ้าไม่ไปเราก็เสียโอกาส และไม่ทันต่อการก้าวทันการเปลี่ยนแปลงแก้ไขปัญหาได้ ไม่อยากให้เอาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาโจมตีนายกรัฐมนตรี แต่อยากให้มาเสนอแนะช่วยคิดว่าทางที่แก้ได้จริงๆ คืออะไร ถ้าสามารถทำให้สาธารณชนเห็นว่านั่นคือทางออก รัฐบาลก็ยินดีทำอยู่แล้ว ไม่อยากให้เอาเกมการเมืองมาปนกับการแก้ไขปัญหาของประชาชน

เมื่อถามว่า รัฐบาลควรออกคำสั่งที่เด็ดขาดมากกว่าขอความร่วมมือหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า อันนี้เป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนอยู่แล้ว เราก็เริ่มจากปัญหาที่เบา ขณะนี้หลายเรื่องเป็นมาตรการเราก็เริ่มเข้มงวดขึ้น เช่น เรื่องชายแดน ก็กำลังเข้าสู่กระบวนการเข้มข้น และต้องมีอีกหลายเรื่อง