| เผยแพร่ |
|---|
พลันที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ศึกษาธิการออกมากล่าวคำ “ขอโทษ”
เหมือนกับจะ “จบ”
เพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็น “เป้าหมาย” จากคำพูดก็พยักหน้ารับคำ “ขอโทษ”
เพราะ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ก็ยังยืนยัน
“พลเอกประวิตรไม่ได้พูดอะไร ท่านก็ยิ้ม ส่วนท่านนายกรัฐมนตรีน่ารัก”
ความน่ารักของ “นายกรัฐมนตรี”มีความสำคัญ
ทำให้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ยอมกล่าวคำ”ขอโทษ” และยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการต่อไป
แต่เรื่อง”นาฬิกา”น่าจะยังไม่จบ
ไม่ว่ากระบวนการได้มาซึ่ง”ข่าว” นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ของบีบีซีภาคภาษาไทยจะเป็นอย่างไร
เป็นการล่อหลอก เป็นการแอบอัด
แต่ความเป็นจริงซึ่ง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ เองก็ยอมรับ
นั่นก็คือ ความเห็นที่ว่าอย่างนี้ต้อง”ลาออก”
เป็นการลาออกตั้งแต่ปรากฏเป็นข่าวว่าครอบครอง 1 เรือนแรก มิใช่มากมายถึงกว่า 20 เรือน
นี่คือ จริยธรรมและความรับผิดชอบของ”หมอ”
แม้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะพยักหน้ายอมรับต่อคำ”ขอโทษ” ต่อหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ภายหลังต่อมาก็ไม่ยอมพูดอะไรนอกจากออกตัวให้เหตุผลว่า
“เจ็บคอ”
หากสรุปตามสำนวนเพลงในแบบของ ทวีพงศ์ มณีนิล ก็ต้องบอกว่า แก้วมันร้าว แก้วมันแตก
ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะ “สมาน” ให้กลับคืนได้
ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่า นพ.ธีระเกียรติ เจริญ เศรษฐศิลป์ ล้วนอยู่ในสภาวะเดียวกัน นั่นก็คือ อดออม ยอม “กลืนเลือด”
เพื่อรักษาความเป็นเอกภาพ เพื่อให้การดำรงอยู่ของ”ครม.”ไม่ปรากฏรอยร้าว หรือแตกแยก
ยังไม่อยากให้เกิดรัฐบาล”ประยุทธ์ 6″
