เผยแพร่ |
---|
ทักษิณ เผยต่อรองเวลาพระเจ้าขออยู่ต่อ 17 ปี กร้าวใครไม่อยากร่วม’รัฐบาล’ ต่อบอกได้ ลั่นเกลียดพวกอีแอบ ใครไม่จบเตะกันคนละทีจะเป็นไร
วันที่ 13 ธ.ค.2567 ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคเพื่อไทยจัดสัมนาภายใต้โครงการเสริมศักยภาพ สส.และบุคลากรทางการเมือง โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ รวมถึงแกนนำพรรคเพื่อไทย ทั้งรองนายกฯ รัฐมนตรี สส. และสมาชิกพรรค เข้าร่วมการสัมมนาอย่างพร้อมเพียง
จากนั้นเวลา 14.40 น. นายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะวิทยากรพิเศษ บรรยายพิเศษหัวข้อ สถานการณ์ทิศทางโลกและการปรับตัวว่า ต้องขอบคุณที่มีโพเดี้ยมให้เกาะ เนื่องจากอายุ 75 ปีแล้ว ยืนพูดแบบนายเศรษฐา คงไม่ไหว ตอนนั่งอยู่ข้างล่างขณะที่น.ส.แพทองธาร พูด ก็คิดว่าทำไมลูกเราพูดเก่งขึ้น ดีใจที่ได้มาพูดคุยกันหลังจากเราไม่ค่อยได้พูดกันตัวเป็นๆ มานาน
วันนี้ได้กลับมาเมืองไทย คิดว่าคงจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองไม่มากก็น้อย เพราะเวลาเหลือไม่นานแล้ว ตอนนี้ 75 ปีแล้ว ตนเป็นคนคิดบวก พูดเล่นบ้างอะไรบ้างก็อย่าแปลกใจ ที่บอกขออีก 40 ปี ก็จะเจรจากับพระเจ้าในประเทศไทยว่า ขอเวลาอีก 17 ปีที่หายไป
นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนนี้ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กลับมา มีคนบอกว่าสหรัฐจะจัดการกับเรา เนื่องจากเราได้เปรียบดุลการค้าจากเขา เราต้องระวังเรื่องการขึ้นภาษี รวมถึงกรณีที่นายโดนัลด์ จะใช้หนี้อเมริกาจากบิทคอยน์ ที่พูดไม่ใช่จะให้ซื้อ แต่เทรนด์เป็นเช่นนั้น มีเงินคริปโตหลายสกุลออกมาแล้ว ก็มีคนบอกว่าอีกหน่อยเราจะมีสกุลเงินมากกว่าจำนวนประเทศ วันนี้คนไทยต้องคิดจะรู้ทันมันให้ได้
ทั้งนี้ นายกฯ อาจจะมอบให้กระทรวงการคลัง ไปศึกษาเพื่อรับบิทคอยน์ได้หรือไม่ ใช้แซนด์บ็อก เช่น จ.ภูเก็ต ใช้บิทคอยน์ เพื่อให้คนถือบิทคอยน์มาใช้เงิน อีกเรื่องที่น่าติดตามคือเหรียญที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งนายกฯ อาจจะให้กระทรวงการคลังศึกษา เช่นการออกคอยน์ โดยมีบอร์นของรัฐบาลค้ำประกัน เพื่อทำให้เงินไหลเวียนในเศรษฐกิจ ถ้าทำแบบนี้เชื่อว่า จีดีพีปีหน้า 3.5 เปอร์เซ็นต์ ไม่น่ามีปัญหา และในปี 2569 หากจีดีพีจะโต 4.0 เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา
นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า วันนี้เม็ดเงินในเศรษฐกิจเราถูกดูดออกหมด เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ไม่ออกกู้ เราต้องหาเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาของประเทศ วันนี้หนี้สาธารณะเราเยอะมาก ฉะนั้น เราต้องทำให้จีดีพีเติบโต และลดการขาดดุล เพื่อทำให้หนี้สาธารณะลดลง พรรค เราต้องทำให้ได้
ปีหน้าจะเป็นปีแห่งโอกาสของคนไทย งบประมาณปีหน้าเป็นปีที่เราจะต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ ต้องลดหนี้สาธารณะลงให้ได้ และต้องให้รัฐวิสาหกิจที่มีหนี้เยอะออกพ้นจากรัฐวิสาหกิจ เอาเอกชนมาลงทุนแทนรัฐ เช่น การลงทุนป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ เราต้องหาทางทำ แต่จะทำอย่างไร ถ้ารัฐไม่มีเงิน งบลงทุนมันต่ำก็ต้องให้เอกชนมาลงทุน เอกชนต้องคิดว่าเขาจะทำประโยชน์คุ้มค้าหรือไม่ ต้องไปดูตรงนี้
วันนี้เราพูดเรื่องการผูกขาด เรื่องไฟฟ้า เรามีหน่วยงานของรัฐ แต่ทุกคนต้องมีสวัสดิการของตัวเอง ทำให้ค่าไฟฟ้าของเรามีราคาแพง เราไม่ควรเห็นเลข 4 บาท เลข 3 บาทปลายก็ไม่ควรเห็น ต้องอยู่ 3 บาทกลางๆ เพราะประชาชนอยู่ไม่ได้
“เมื่อ 2 วันก่อนมีพ.ร.ก.เกี่ยวกับมาตรการทางภาษีระหว่างประเทศเข้าที่ประชุมครม. ปรากฏว่ามีพรรคร่วมบางพรรคหลบ ป่วย อย่างนี้ ไม่ใช่เลือดสุพรรณ ถ้าอยู่ด้วยกันก็ต้องด้วยกัน วันหลังไม่อยากอยู่ ต้องบอกให้ชัดเจน เราเป็นคนพูดรู้เรื่อง ห้ามหนี
ต่อไปใครหนี ก็บอกว่าถ้าหนีก็ส่งใบลาออกมาด้วย ง่ายดี ผมเป็นคนเกลียดพวกอีแอบ ตรงไปตรงมาง่ายๆ อยู่ก็อยู่ ไม่อยู่ก็ไม่ต้องอยู่ ถ้าอยู่ก็ต้องสู้ด้วยกัน ในเมื่อเป็นนโยบายรัฐบาลร่วมกัน แถลงนโยบาย คุณยกมือเห็นด้วย พอได้เก้าอี้รัฐมนตรีค่อยๆ หลบมือออก ไม่ได้ ต้องตรงไปตรงมา” นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยแปลกอย่างหนึ่ง คนไม่มีอาชีพ มีฐานะดีกว่าคนมีอาชีพ แสดงว่าคนไทยไม่อยากมีเรื่อง ใครหาเรื่องก็ปิดปาก ถ้าสรรพากรได้ยิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ได้ยิน ก็ไปตรวจสอบ บางคนเมีย 3 ลูก 5 ไม่ทำอาชีพอะไร บางคนส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ ทั้งที่อาชีพไม่มี บางคนถึงเวลาต้องไปหยอดเหรียญ ถ้าไม่หยอดก็รวน พอได้แล้ว ร้องไปร้องมาทำให้คนไม่เชื่อมั่นประเทศไทย
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตอนที่ตนถูกร้อง นักลงทุนต่างประเทศมาพบ ก็ถามว่าวิตกหรือไม่ ตนบอกว่าเราเปิดช่องให้ใครก็ไม่รู้มาร้อง บางคนไม่เกี่ยวข้องก็มาร้อง คนไทยเรามันเจ้าคิดเจ้าแค้น 17 ปี ตนโดนเล่นงาน มีคนยกหูหา ตนก็บอกจบนะ จะจบก็ต้องจบ ไม่จบก็ไม่เป็นไร เตะกันคนละทีจะเป็นอะไร และตนไม่อยากเสียเวลายาว เพราะเสียมา 17 ปีก็มากพอแล้ว
“บังเอิญผมไปนครปฐม หมูมันเปลี่ยนเสียงเรียก มันเรียกผมพี่พี่ แต่เมื่อก่อนผมไปนครปฐม หมูไม่เปลี่ยนเสียงเรียกมันไม่เรียกพี่ มันร้องอู๊ดๆ แสดงว่าผมไม่หมูแล้ว ขนาดหมูมันยังรู้ว่าผมไม่หมูแล้ว ฉะนั้นไอ้คนที่ร้องผม ร้องพรรค ร้องไม่สำเร็จ ก็เตรียมถูกเช็กบิลด้วยแล้วกัน ” นายทักษิณ กล่าว
“พรรคร่วมรัฐบาลต้องทำงานร่วมกันจริงๆ ตรงไปตรงมา มีอะไรไม่พอใจพูดกัน แต่สิ่งไหนที่เป็นนโยบายรัฐบาลคือต้องทำ ไม่ใช่ได้ตำแหน่งแล้วไม่เอาแล้ว รัฐบาลเป็นกลไกประชาธิปไตย มีหลาย ออปชั่น อยากส่งสัญญาณให้รู้ว่า วันนั้นไม่สวยเลย วันนี้ที่หายไปตอน พ.ร.ก.เข้า มันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ให้รู้ว่าการทำงานร่วมกันง่ายมาก” นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้ครอบงำนายกฯ ใครมีลูกสาว จะรู้ว่าพ่อกับลูกสาวคนเล็ก มันแพ้ทางกันอยู่ ตนต่างหากที่ถูกใช้ นายกฯบอกว่า พ่อทำโน้น ทำนี่ให้หน่อย เงินเดือน 700 บาท เป็นผู้ช่วยหาเสียงได้วันละ 300 บาท แต่ช่วงนี้งานชุกหน่อย จ.ศรีสะเกษก็เตรียมตัวไว้ จ.เชียงใหม่ มีเงินหรือไม่ ช่วงเลือกนายก อบจ. อาจจะรวยหน่อย