เผยแพร่ |
---|
9 ธ.ค.67 พลโทภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวว่ารัฐธรรมนูญถือเป็นกฎหมายแม่บทของการสร้างชาติ แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกลับถูกแก้ไขจนเป็นตัวสร้างวิกฤติชาติ วันที่ 10 ธันวาคม เป็นวันรัฐธรรมนูญ ดังนั้น 7 ธันวาคม กลุ่ม “สวัสดีคนไทย” โดย พล.ท.ภราดร / ดร.พิศุทธิ์ จำเริญรวย / ทนายชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ และดร.รัฐกานต์ วิชัยดิษฐ จึงได้ร่วม “พูดคิด พูดคุย” กับภาคประชาชนบางกลุ่มในประเด็น92ปีที่ปวงชนชาวไทยได้รับพระราชทาน “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม “ ฉบับแรก จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เมื่อ 10 ธันวาคม พ.ศ.2475 สรุปสาระได้ว่า “ประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ”
คือ มรดกอันล้ำค่าที่คู่กันของชาติที่ส่งต่อมา92ปีถึง 4 แผ่นดิน …แต่เรากลับได้เห็นคือ
1. “อนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย” ที่เป็นสิ่งปลูกสร้าง เสมือนสัญลักษณ์ทางการเมือง
2. “รัฐธรรมนูญ 20 ฉบับ” ที่ถูกฉีกทิ้ง 13 ฉบับ ด้วยอำนาจพิเศษ
3. “การเลือกตั้ง” 27 ครั้ง
4. “รัฐบาล 64 ชุด” ที่บางรัฐบาล ยังยึดโยงกับ อภิสิทธิ์ชนและระบบอุปถัมภ์
5. นายกรัฐมนตรี 31 ท่าน” ที่บางท่านไม่ใช่ “ผู้นำโดยศักยภาพ” แต่เป็น“ผู้นำโดยอำนาจนิยม”และผลประโยชน์พวกพ้อง
…….”ประชาธิปไตยไทย” ก็ยังเป็นเพียง “ประชาธิปไตยวาทกรรม” ประชาชน ไม่รู้อยู่ตรงไหน ?ใน”สมการประชาธิปไตย”ภายใต้ “รัฐธรรมนูญ” อันศักดิ์สิทธิ์…สังคมไทยต่างมีความเห็นว่าต้องปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันในบางประการ เพราะ
1. “ที่มา” ของรัฐธรรมนูญ เกิดจาก การ “ปฏิวัติรัฐประหาร” ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างจริงจัง
2. “เนื้อหา” ของรัฐธรรมนูญยังไม่สร้าง “โอกาส” ให้ ประชาชน มีสิทธิ เสรีภาพ และความเท่าเทียม ได้สมเจตนารมณ์
3. ที่มาและอำนาจของ ”องค์กรอิสระ”บางองค์กร ยังอยู่ในลักษณะ เสมือน เป็น “เครื่องมือทางการเมือง” ไม่สร้างสรรค์ให้เกิด “สังคมศิวิไลซ์”ที่มีธรรมาภิบาล คุณธรรม จริยธรรม เพื่อความรุ่งเรืองและสมานฉันท์อย่างยั่งยืน
…..กลุ่ม“สวัสดีคนไทย” เห็นว่า
1. ต้องมอง “อดีต” เป็นบทเรียน มอง ”ปัจจุบัน” เพื่อการปรับปรุง แก้ไข และ “ต้องมองไปข้างหน้า” เพื่อเป็น “อนาคต” ในเส้นทางเป้าหมายและหลักชัยที่ดีงามของลูกหลานที่จะรับช่วงต่อในการพัฒนาชาติต่อไป
2. “สภาและรัฐบาล” ต้องสุจริตเคร่งครัดกับการปรับปรุงแก้ไข “ รัฐธรรมนูญ ” ด้วยความจริงจัง จริงใจ เพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชน เพื่อให้เป็น “รัฐธรรมนูญไทย” มิใช่เพื่อประโยชน์และความได้เปรียบทางการเมืองของพวกพ้องเฉพาะกลุ่ม เพื่อให้เป็น”รัฐธรรมนูญใคร”
3. “ประชาชน” เป็นเจ้าของประเทศ เป็น”กระดุมเม็ดแรก” ของระบอบประชาธิปไตย ด้วยการมี “1 สิทธิ์ 1 เสียง“ ที่เท่ากันใน “การเลือกตั้งระดับท้องถิ่น” และ ”ระดับชาติ“
4. ประชาชนจะเลือกใคร ย่อมเป็นสิทธิส่วนตัว จาก “ความชอบ“ และ ”ความเชื่อ” แต่ขอให้การเลือกนั้น มาจาก “พลังความคิด“ ที่สุจริตและรอบคอบของตนเอง เพราะ “ประชาชน” คือ “นาย” ของนักการเมือง…..
….”ประชาธิปไตย” ที่แท้จริง เพื่อทุกเพศ ทุกวัย ทุกชนชั้น
….”รัฐธรรมนูญ” ที่เอื้อประโยชน์ต่อประชาชนโดยรวม
….”นักการเมือง” ที่สุจริต มีคุณธรรม จริยธรรม วุฒิภาวะและสามัญสำนึก
….”ผู้นำและรัฐบาลที่ดี” ที่มีความสามารถมีธรรมาภิบาล เพื่อการบริหารบ้านเมือง ให้เกิดประโยชน์และความสุข ต่อสังคมโดยรวม
….ก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม…To be continued …การพบปะครั้งนี้”กลุ่มสวัสดีคนไทย”ได้บทสรุปว่า ภาคประชาชนรู้ซึ้งถึงปัญหารัฐธรรมนูญ การเปลี่ยนแปลงใหญ่ทางการเมืองใกล้จะมาถึง เมื่อนั้นการเมืองแบบใหม่ที่ต้องมีประชาชนอยู่ในสมการเสมอจะเข้ามาแทนที่แบบเก่าและรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนจะเกิดขึ้นตามมา