สว.อลงกต ที่แสร้งร่ำไห้กลางสภา บอกดีใจดังแล้ว หลังถูกร้องจริยรรม ยันไม่ได้ล้อเลียน ‘สว.เศรณี’ หรือซ้ำเติมผู้ประสบภัย

สว.อลงกต ดีใจดังแล้ว หลังถูกร้องจริยรรม ยันไม่ได้ล้อเลียน ‘เศรณี’ หรือซ้ำเติมผู้ประสบภัย ชี้ร้องไห้ให้กับการศึกษาที่ไม่เคยสำเร็จ เปรียบตนเป็นพระเทวทัต ต้องนิ่ง ขอสู้กันในสภาดีกว่า

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2567 ที่รัฐสภา นายอลงกต วรกี สว. แถลงกรณีถูกยื่นให้ประธานวุฒิสภา ตรวจสอบจริยธรรม กรณีล้อเลียนแกล้งร้องไห้ ในการประชุมวุฒิสภาเพื่อตั้งกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญศึกษาแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วมว่า จากประสบการณ์ส่วนตัว ที่เจอปัญหาน้ำท่วมมาหลายครั้ง มองว่าการตั้งกมธ.แบบนี้ทำมาแล้วกว่า 30 ปี แต่เมื่อได้รายงานผลการศึกษาเสร็จก็ไม่มีผลสำเร็จในการแก้ปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว

นายอลงกต กล่าวต่อว่า เราไม่ควรมาศึกษาต้นเหตุการเกิดน้ำท่วม แต่ควรศึกษาหาวิธีช่วยเหลือประชาชนไม่ให้สูญเสีย และเยียวยาอย่างรวดเร็วที่สุด สาเหตุที่ตนอภิปราย และแสดงความเศร้าเสียใจคือเราหมดงบประมาณกับการจัดทำรายงานการศึกษาแต่ทำอะไรไม่ได้เลย เราควรต้องแก้ปัญหา และความช่วยเหลือ ขณะเกิดภัยอย่างไร

ส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าการทำท่าร้องไห้ เป็นการไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ นายอลงกต กล่าวว่า ต้องถามกลับว่าคนที่วิจารณ์ ได้ดูคลิปเต็มหรือดูเพียงคลิปในแอป TikTok เพราะในคลิปเต็ม ตนกล้ายืนยันว่ามีเนื้อหาชัดเจน แต่คนนำไปบิดเบือน ซึ่งตนมีหน้าที่รับคำด่าหรือคำติชมในทุกกรณีอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหา

“ผมร้องไห้เศร้าใจ ไม่ได้เศร้าใจกับคนประสบปัญหา แต่เศร้าใจกับการแก้ปัญหาที่เน้นเรื่องการศึกษามากกว่าการแก้ปัญหา แต่คนในแอป Tiktok ก็ไปบิดเบือนข้อความ แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อเขามีความเห็นที่ไม่สบอารมณ์กับตัวผม ผมก็มีหน้าที่รับคำติชมและคำติเตียนในทุกกรณี หากจะมีสอบขึ้นมาก็ไม่มีปัญหา เพราะในเนื้อหาเต็ม ผมพูดว่าผมเศร้าใจกับการศึกษาเนื้อหา แต่ไม่เกิดผลสำเร็จ” นายอลงกต กล่าว

นายอลงกต กล่าวอีกว่า คงต้องสืบหาว่าใครเป็นคนนำเนื้อหาไปบิดเบือน ส่วนผู้มายื่นร้องจะมีเจตนาอย่างไรนั้น ก็ขอให้ไปคิดเอง พร้อมยกตัวอย่างว่า เวลามีบางเหตุการณ์เกิดขึ้น ก็มีการมาออกข่าวกับสื่อมวลชน เขาต้องการอะไรตนก็ตอบไม่ได้ รวมทั้งเหตุการณ์ที่ตนอภิปรายก็เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดเชียงราย เป็นคนละเหตุการณ์แต่ก็มีคนนำมาเชื่อมโยงกัน

เมื่อถามว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรกับผู้ที่ออกมาร้องทำให้เสียหาย นายอลงกต กล่าวว่า ตนเหมือนพระ มีทั้งพระเทวทัต ก็ต้องเฉย เพราะทำอะไรก็ไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์ ไปสู้กันในสภาดีกว่า เพราะสู้นอกสภาไปก็ไม่มีประโยชน์

“ขอเรียนตามตรง พวกน้อง (นักข่าว) มาหาพี่เองใช่ไหม เพราะตอนนี้แสงมาหาผมแล้ว ผมไม่ได้ไปหาพวกคุณแบบบางคน เพราะแสงของพวกคุณมาหาผมแล้ว ผมไม่ได้มีปัญหากับเรื่องนี้ แต่คิดดู ผมเจอสส.บางคน เป็นสส.มาสามปี แต่ไอ้นี่เป็น สว. มาสามเดือน ทำไมดังกว่าอีก แต่ไม่เป็นไรก็ถือเป็นชื่อเสียงแก่วงศ์ตระกูลผม” นายอลงกต กล่าว

นายอลงกต ยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหานายเศรณี อนิลบล สว.ที่ร้องไห้ขณะอภิปราย และยืนยันว่าไม่ใช่การล้อเลียน บางคนอยากจะโยงก็โยง แต่คนที่ไม่โยงเขาก็ไม่โยง ทั้งนี้ ต้องดูว่าตนได้พูดถึงนายเศรณีหรือไม่ แล้วจะมาหาว่าตนล้อเลียนนายเศรณีได้อย่างไร แต่พอมีคลิป TikTok ออกไปก็ดี ตนดัง ตอนนี้ดาวสภาสว. ตนน่าจะติด 1 ใน 5 ถูกไหม

เมื่อถามว่ามีอะไรอยากจะฝากถึงประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่รับข่าวสารแล้วเข้าใจว่าซ้ำเติม นายอลงกต ระบุว่า “เขาคงรู้สึกว่า ไอ้เวรนี่ ไอ้ สว.อลงกตนี่ ไปซ้ำเติมเขา อารมณ์โกรธก็จะมา ในช่วงนี้คงไม่ฟังคำอธิบาย แต่ไม่เป็นไร ผมอภิปรายช่วงก่อนเกิดเหตุน้ำท่วม และบางคนพยายามเสี้ยม ก็เติมแสงสีลงไป ในแอป TikTok แต่ผมก็พร้อมน้อมรับ และยืนยันว่าไม่เคยดูหมิ่นเหยียดหยามผู้ประสบภัย และผู้ประสบภัยต้องได้รับการช่วยเหลือ ทั้งขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ”