พวงทอง โพสต์ชี้แจง หลัง กอ.รมน. เตือนหนังสือที่เขียนเป็นเอกสารต้องห้าม ยันผ่านการตรวจสอบจากผู้ทรงคุณวุฒิทั่วโลก

พวงทอง โพสต์ชี้แจง หลัง กอ.รมน. เตือนหนังสือที่เขียนเป็นเอกสารต้องห้าม ยันผ่านการตรวจสอบจากผู้ทรงคุณวุฒิทั่วโลก ใช้เอกสารอ้างอิงจากกองทัพ

กรณี กองอำนวยการรักษาความมั่งคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ประกาศให้หนังสือ “ในนามของความมั่นคงภายใน การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย” เป็นเอกสารต้องห้าม หวั่นส่งผลให้เกิดความเสียหาย ทำให้สังคมเข้าใจผิด และกระทบภาพลักษณ์ขององค์กรหน่วยงาน จึงขอความร่วมมือในการระงับการจำหน่าย และจะประสานทางมหาวิทยาลัยต้นสังกัดพิจารณาเรื่องจริยธรรมของผู้เขียน

วันที่ 16 ก.ย.2567 รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ชี้แจงในกรณีดังกล่าว ความว่า ดิฉันขอชี้แจงต่อข้อกล่าวหาที่ กอ.รมน. มีต่อหนังสือของดิฉันดังต่อไปนี้ค่ะ

หนังสือ “ในนามของความมั่นคงภายใน: การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย” นี้ ปรับปรุงมาจากหนังสือชื่อ Infiltrating Society: The Thai Military’s Internal Security Affairs (การแทรกซึมสังคม: กิจการความมั่นคงภายในของทหารไทย) ตีพิมพ์โดยสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา-ยูซฟ อิชัค (ISEAS-Yusof Ishak) แห่งประเทศสิงคโปร์ในปี 2564

Infiltrating Society เป็นงานวิจัยที่ดิฉันได้รับการสนับสนุนทุนวิจัย (fellowship) จากสถาบันการศึกษา 3 แห่ง ได้แก่ ISEAS-Yusof Ishak, Singapore; Center for Southeast Asian Studies, Kyoto University; และ Harvard-Yenching Institute, Harvard University. ดิฉันใช้เวลารวม 2 ปีในการนั่งเขียนวิจัยที่สถาบันทั้ง 3 นี้

Infiltrating Society รับรางวัลผลงานวิจัยดีเด่นจากกองทุนรัชดาภิเษกสมโภช จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำปี 2566

Infiltrating Society ยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในหนังสือที่ดีที่สุดของปี 2022 จากวารสาร Foreign Affairs อันเป็นวารสารวิชาการที่ทรงอิทธิพลในด้านรัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และยังได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกจากนักวิชาการและสื่อมวลชนต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการเมืองไทย ทหาร และความมั่นคงอีกหลายท่าน

โดยท่านสามารถดูรีวิวที่สำนักพิมพ์ ISEAS รวมรวบไว้ได้ที่ https://bookshop.iseas.edu.sg/publication/2470 หรือ อ่านคำแปลภาษาไทยบางส่วนในภาพด้านล่างนี้

Infiltrating society เป็นหนึ่งในผลงานวิชาการที่ดิฉันยื่นขอตำแหน่งศาสตราจารย์ โดยได้รับการอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัยแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 ปัจจุบันกำลังรอการโปรดเกล้าฯ

ดิฉันเห็นว่าคนไทยควรได้มีโอกาสเข้าถึงงานวิจัยชิ้นนี้ ซึ่งได้กลายมาเป็นหนังสือภาษาไทย “ในนามของความมั่นคงภายใน: การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย” โดยได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากฝ่ายวิจัย คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ

ดิฉันขอเรียนว่าในทุกขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้น งานวิจัยหรือหนังสือของดิฉันได้ผ่านการตรวจสอบและอ่านจากผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสถาบันการศึกษาทั่วโลก ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการเมืองไทย กองทัพ และความมั่นคงของไทยและของโลก

สำหรับระเบียบวิธีวิจัยและการใช้เอกสารอ้างอิง หากท่านมีโอกาสเปิดดูบรรณานุกรมท้ายเล่ม จะพบว่าเอกสารส่วนใหญ่เป็นเอกสาร ทั้งในรูปแบบเอกสารตีพิมพ์และเผยแพร่บนเว็บไซต์ ของกองทัพ กอ.รมน. สภาความมั่นคงแห่งชาติ หน่วยราชการที่ทำงานร่วมกับกอ.รมน. และกฎหมายหลากหลายฉบับ ซึ่งดิฉันนับได้มากกว่า 100 ชิ้น

ในจำนวนนี้ เฉพาะเอกสารของกองทัพและกอ.รมน.มีถึง 80 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีข่าวเกี่ยวกับกิจกรรมของ กอ.รมน.และกองทัพบนเว็บไซต์ของสื่อมวลชนต่างๆ อีกอย่างน้อย 50 ชิ้น ในความเป็นจริง ข้อมูลและข่าวที่ดิฉันรวบรวมไว้มีมากกว่านี้เกือบเท่าตัว แต่เนื้อหามักจะซ้ำๆ กัน ดิฉันจึงไม่ได้นำมาอ้างอิง

ดิฉันมีความเข้าใจดีว่ากอ.รมน.ไม่เห็นด้วยกับการตีความที่ปรากฏในหนังสือของดิฉัน ซึ่งดิฉันยินดีรับฟังความเห็นต่างของท่าน โดยท่านอาจโต้แย้งในรูปข้อเขียน หรือจัดสัมมนาเพื่อให้ประชาชนรับทราบความคิดเห็นของท่าน และเผยแพร่บนกลไกสื่อจำนวนมากของ กอ.รมน. และกองทัพ หรือหากท่านจะส่งตัวแทนเพื่อร่วมเสวนาในงานเปิดตัวหนังสือของดิฉันในวันที่ 27 กันยายนที่จะถึงนี้ ดิฉันก็ยินดีต้อนรับวิทยากรของกอ.รมน.ด้วยความเต็มใจ

ดิฉันเชื่อว่าประชาชนก็น่าจะชื่นชมการโต้แย้งความคิดด้วยแนวทางประชาธิปไตยนี้ มากกว่าจะใช้วิธีการห้ามหรือแบนหนังสือเพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าถึงความเห็นที่แตกต่าง ด้วยแนวทางประชาธิปไตยเช่นนี้ต่างหากที่จะทำให้สังคมไทยมั่นคงเข้มแข็งมากขึ้น เพราะจะทำให้เราสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ และมีขันติให้กับความแตกต่างหลากหลาย