เผยแพร่ |
---|
เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ Lido Connect Hall 2 สยามสแควร์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เครือมติชน จัดงาน ‘Talks for Thailand 2024 เสียง-สามัญชน’
โดยหลังจบการทอล์ต นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ ได้เชิญ ศ.ดร. สุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขึ้นกล่าวบนเวที
ศ.ดร. สุรพล กล่าวว่า เสียงของคนธรรมดาสามัญเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ แต่เราไม่ค่อยได้ยินมันมากในสื่อกระแสหลัก สังคมที่เปลี่ยนไปจาก 10 กว่าปีมานี้
“คนธรรมดาสามัญเสียงดังขึ้น แต่สิ่งที่กดทับมันหนักเกินกว่าที่จะทำให้คนในสังคมได้ยินมันชัด จากวันนี้ ช่วงเวลาปีนี้ หลายเดือนมานี้ ผมคิดว่าเสียงจะค่อยๆดังมากขึ้นเรื่อยๆ จะบอกอะไรบางอย่างว่าผู้คนในสังคมที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง ผมคิดว่าเสียงสามัญชนในประเทศนี้ จะเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงบางเรื่องบางราว พวกเราจะได้เห็นในเวลาไม่นาน “
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ ’มติชน’ ว่า ตนได้รับคำเชิญมาจาก ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ในฐานะนักวิชาการลูกชาวบ้าน และอดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงอยากลองมาดูมาฟังว่า ภายในงานจะมีการแสดงมุมมองอย่างไรบ้าง
“ช่วงหลายเดือน หรือ ช่วงหนึ่งปีมานี้ เราฟังเสียงใครต่อใครเยอะแยะ ที่เป็นเสียงก้องกลับไปกลับมา ล้วนจะเป็นคนที่มีสถานะมีชื่อเสียงในสังคม ไม่ค่อยได้เสียงจากบุคคลธรรมดาสักเท่าไหร่ เลยอยากจะมาลองฟังในงานว่าจะมีเนื้อหาอย่างไร
ส่วนตัวผมคิดว่า เสียงของสามัญชนดังไม่เพียงพอหรอก แต่ว่าโซเชียลมีเดียทำให้ดังขึ้น การมีเวทีก็ทำให้คนหลากหลายคนได้คุยกัน และอาจจะทำให้เสียงนั้นก้องมากขึ้นกว่าที่เคยพูดโดยคนใดคนหนึ่ง” ศ.ดร.สุรพลชี้
ศ.ดร.สุรพลกล่าวว่า ตามจริงไม่จำเป็นต้องมีวิธีการอะไรมากมายในการเพิ่มความดังของเสียงสามัญชน เพียงแต่ถ้ามันตอบโจทย์ ถ้ามันมีการอภิปราย หรือ แสดงในสิ่งที่คนทั่วๆไปเขาคิดกัน เพราะไม่มีเสียงใดที่ดังกว่าเสียงที่คนทั่วๆไปในประเทศคิดตรงกัน
“ผมก็เชื่อว่าวิธีการไม่ค่อยสำคัญ และไม่จำเป็นต้องมีวิธีการที่ทำให้เสียงดังไปถึงรัฐบาล เพราะ สังคมปัจจุบันไม่ได้ เหมือนสังคมเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นสังคมที่ปกครองโดยรัฐบาลที่มีการลำดับชั้นบุคคล แต่สังคมปัจจุบันเป็นสังคมที่ทุกคนมีส่วนร่วม สามารถพูดอะไรได้เท่ากัน
ฉะนั้นถ้าคนเดียว สองคน หรือ คนกลุ่มเล็กที่พูดอะไรแล้ว ตรงกับที่คนส่วนใหญ่เชื่อก็จะสามารถทำให้เสียงเหล่านี้ กลายเป็นเสียงที่ดังก้องในการขับเคลื่อนได้” ศ.ดร.สุรพลกล่าวทิ้งท้าย