นายกฯ อิ๊งค์ มั่นใจ แจกเงินหมื่น ยังเป็นพายุหมุนกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้เปลี่ยนรูปแบบ แต่มีหลายโครงการช่วยหนุน ไม่สนคนปรามาสอยู่ได้ไม่ถึงปี ท้าช่วยกันนับ

นายกฯ อิ๊งค์ มั่นใจ แจกเงินหมื่น ยังเป็นพายุหมุนกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้เปลี่ยนรูปแบบ แต่มีหลายโครงการช่วยหนุน ไม่สนคนปรามาสอยู่ได้ไม่ถึงปี ท้าช่วยกันนับ

เมื่อเวลา 09.35 น. วันที่ 11 ก.ย.2567 ที่อาคารชินวัตร 3 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าปฎิบัติหน้าที่ โดยมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้ามาด้วยเพื่อเตรียมความพร้อมข้อมูลต่างๆ ในการแถลงนโยบายคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา ในวันที่ 12-13 ก.ย.

น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กำชับรัฐมนตรีทุกกระทรวงชี้แจงทันทีในข้อสงสัยของสมาชิกรัฐสภาที่อภิปราย เพื่อความเข้าใจ ว่า ใช่ เพราะจริงๆแล้วรัฐมนตรีทุกท่านตั้งแต่ตั้งรัฐบาลมา ก็ทำงานกันอยู่แล้ว จึงอยากให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบในเรื่องต่างๆ ได้ตอบเอง

ในส่วนของนายกฯ ตอบภาพรวมได้ แต่ดีเทลการทำงานของแต่ละกระทรวง เขามีดีเทลที่เขาทำจริงๆ ซึ่งจะชัดเจนกว่าและสามารถให้ข้อมูลประชาชนได้ชัดเจน และจะได้ไม่เกิดข้อสงสัยหรือเข้าใจผิดกัน จึงคิดว่าอยากให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบได้ตอบงานของตัวเอง

เมื่อถามว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะเกิดความชัดเจนจากเวทีนี้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ใช่ วันที่ 12 ก.ย. ตนจะแถลงภาพรวมของนโยบาย แต่นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต รมว.คลังจะเป็นคนแถลงรายละเอียดทั้งหมด

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ 10,000 บาทได้ทั้งหมดก้อนเดียวผ่านดิจิทัลวอลเล็ต แต่วิธีการทำกับการหาเสียงแตกต่างกัน จะอธิบายประชาชนอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า มันมีความแตกต่างแน่นอน พอได้ลงมือทำจริงๆ เมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาล มันมีเรื่องของระบบที่ต้องติดตั้งอีกนาน ฉะนั้น เราคิดว่าเมื่อระบบและสิ่งอื่นๆยังมีข้อพิพาทต่างๆ ซึ่งมันต้องรอ แต่เศรษฐกิจรอไม่ได้ประชาชนรอไม่ไหว

จึงต้องปรับเปลี่ยนในจุดนี้ให้ประชาชนก่อน เพราะเรื่องเศรษฐกิจเป้าหมายของเราในการทำดิจิทัลวอลเล็ต นั่นคือการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ หากกระตุ้นไม่พอ เรายังพร้อมปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในแบบดิจิทัลด้วย แต่มันมาช้ากว่า แต่เศรษฐกิจต้องถูกกระตุ้นก่อน เราทำอันนี้เสร็จ ไม่ใช่มีแค่นโยบายเดียว เรามีอีกหลายอันที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่อันนี้เป็นอันหลัก เร่งด่วนและเห็นผลทันทีจึงอยากรีบทำ

เมื่อถามว่ารัฐบาลวันนี้สานต่องานของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ซึ่งเคยมีนโยบายจ่ายเงินดิจิทัล รอบเดียวไม่แบ่งจ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาพใหญ่ แต่วันนี้เปลี่ยนไป การกระตุ้นเศรษฐกิจจะเป็นตามเป้าหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า การวางแผนเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีหลายเฟสที่ต้องกระตุ้น อย่าง 10,000 บาท ที่แถลงไปแล้วว่าจะจ่ายก่อน ก็เป็นการกระตุ้นอันหนึ่ง ภาพใหญ่หนึ่งภาพก่อน

“แต่ส่วนหลังจากนั้น ก็ไม่ลืมทิ้งโครงสร้างดิจิทัลที่เราจะต้องทำต่อด้วย อันนี้สำคัญ ตอนแรกเราจะไม่ให้เป็นเงินสดเลยทั้งหมด จะเป็นเงินดิจิทัลทั้งหมด แต่เศรษฐกิจรอไม่ได้ เราเลยต้องแบ่งเฟส ดิจิทัลยังอยู่แต่เราอาจจะเปลี่ยนเป็นว่า 5,000 บาทไหม หรืออย่างไร เดี๋ยวให้รมว.คลังแถลงรายละเอียด”

เมื่อถามว่าพอแบ่งจ่ายอาจจะไม่ใช่พายุหมุนเหมือนที่เราตั้งใจไว้ หลายคนมองว่าเหลือเพียงแค่หย่อมความกดอากาศต่ำ นายกฯ กล่าวว่า มันกระตุ้นแน่นอน แต่รูปแบบเปลี่ยนไป ฉะนั้น ขอให้รมว.คลัง แจงในรายละเอียดอีกที

เมื่อถามว่าเป้าในการกระตุ้นเศรษฐกิจจะลดลงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เพราะเราแบ่งเฟสแล้วและอย่างที่บอกไม่ได้มีนโยบายเดียว ที่จะให้การกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดขึ้น ฉะนั้น การแบ่งทีละเฟสควบคู่กับนโยบายอื่นๆ ก็จะทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจดูดี

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยหาเสียงจ่ายเงินดิจิทัลขณะที่ยังไม่ศึกษารายละเอียด จึงทำให้การจ่ายเงินล่าช้า นายกฯ กล่าวว่า มันล่าช้า เพราะเราเข้ามา เราคิดว่าจริงๆแล้วระบบมันจะดำเนินไปได้เลย แต่มันต้องมีการรับฟัง ถ้าไม่เกิดการรับฟังมีปัญหาอย่างแน่นอน ซึ่งต้องรับฟังหลายๆฝ่ายว่ามีข้อกังวลหรือข้อสงสัยอะไร อันนี้คือสิ่งที่เราพยายามทำให้รัดกุม และดีที่สุดสำหรับประเทศด้วย

เมื่อถามว่าในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา มั่นใจเต็มที่หรือไม่ เนื่องจากทั้งฝ่ายค้านและสว.จองคิวไว้เต็มที่ นายกฯกล่าวว่า “เหรอคะ เราก็ทำเต็มที่ แต่จริงๆแล้วขอโฟกัสเรื่องน้ำท่วม หลังการแถลงก่อน” เมื่อถามย้ำว่าจำเป็นถึงกับจะต้องมีองครักษ์พิทักษ์นายกฯหรือไม่ นายกฯไม่ตอบได้แต่ร้องอ๋อ

เมื่อถามว่ายังมีเสียงข้อครหารัฐบาลแพทองธาร ไม่ต้องนับปี เอาแค่นับเดือนจะรอดหรือไม่ นายกฯยิ้มพร้อมกล่าวว่า ก็ช่วยกันนับ