‘ไลน์’ เปิดตัวบริการแลกเปลี่ยนเงินดิจิตัล ท่ามกลางข่าวสืบสวน ‘คอยน์เช็ค’ ถูกปล้น

วันที่ 31 มกราคม 2561 บริษัท ไลน์ จำกัด โซเชียลแพลตฟอร์มแมสเซนเซอร์ขึ้นชื่อของญี่ปุ่นแถลงประกาศแผนเปิดตัวระบบแลกเปลี่ยนเงินตราดิจิทัล หลังได้รับความเห็นชอบ หน่วยงานดูแลของกระทรวงการคลังญี่ปุ่นอนุญาตให้ดำเนินการแลกเปลี่ยนได้ โดยเงื่อนไขอยู่ในระหว่างทบทวนอย่างละเอียด ซึ่งการเปิดตัวดังกล่าว เกิดขึ้นท่ามกลางหน่วยงานตรวจสอบของรัฐบาลเข้าสืบสวนการแฮกปล้นเงินดิจิตัลจากคอยน์เช็ค สูญไปกว่า 530 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

โดยโฆษกของไลน์กล่าวว่า เราจะระมัดระวังในการสร้างความสมดุลระหว่างการสื่อสาร จากผู้เริ่มใช้หรือขาดประสบการณ์ คุณค่าของผลิตภัณฑ์ทางการเงินเหล่านี้และความเสี่ยงที่จะต้องได้รับ

ไลน์ยังกล่าวอีกว่า จะเริ่มการซื้อขายเงินตราดิจิตัลผ่าน ไลน์ ไฟแนนเชียล บริษัทใหม่ของไลน์ที่จะบริการสินเชื่อและประกันภัยผ่านแอพไลน์ โดยตอนนี้ไลน์มีบริการโอนเงินและชำระค่าบริการที่มีผู้ใช้งานนี้แล้ว 40 ล้านคน

 

ด้านหน่วยบริการการคลังของญี่ปุ่น หรือ เอฟเอสเอ กล่าวว่า จะทำการตรวจสอบการแลกเปลี่ยนเงินตราดิจิทัลทั้งหมดในญี่ปุ่นเพื่อแก้ช่องว่างด้านความปลอดภัยหลังเกิดเหตุการแฮกปล้นเงินครั้งใหญ่ โดยตอนนี้มีการขึ้นทะเบียนบริการแลกเปลี่นเงินตราดิจิตัล 16 แห่งและอีก 16 แห่ง อยู่ระหว่างรอดำเนินการ

สิ่งที่เกิดขึ้นกับกรณีการปล้นครั้งมโหฬารของคอยน์เช็คนี้ ยังดึงให้ญี่ปุ่นสนใจในการกำกับดูแลการแลกเปลี่ยนเงินตราดิจิตัล โดยเมื่อปีที่แล้ว ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศแรกที่มีการควบคุมการแลกเปลี่ยนเป็นระดับชาติ ซึ่งเกิดขึ้นจากนักเล่นเงินตราดิจิตัลและผู้ดูแลการแลกเปลี่ยนที่เร่งสร้างนวัตกรรมไปพร้อมกับคุ้มครองผู้บริโภค

ขณะที่ การซื้อขายเงินตราดิจิตัลในญี่ปุ่นพุ่งขึ้นในปีที่แล้ว ด้วยกลุ่มทัพนักลงทุนเกิดใหม่ที่เป็นพลังหลักในการขับเคลื่อนบิตคอยน์ ประกอบกับส่วนแบบตลาดบิตคอยน์ระดับโลกก็เพิ่มขึ้นหลังการเข้ามาของจีนและเกาหลีใต้ ด้วยข้อเสนอน่าดึงดูดใจของธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราดิจิตัล

 

 

ทั้งนี้ แอพไลน์ ยังคงเป็นแพลตฟอร์มแมสเซนเจอร์ยอดนิยมซึ่งนอกจากฐานในประเทศอย่างญี่ปุ่นแล้ว ไลน์ยังมีฐานลูกค้าที่เข้มแข็งทั้งในไต้หวัน ประเทศไทยและอินโดนีเซีย โดยไลน์ได้ออกสู่สาธารณะด้วยการเปิดการขายหุ้นครั้งใหญ่เมื่อปี 2559 หลังต้องดิ้นรนเพื่อรักษาความกระตือรือร้นอของนักลงทุน และการขายโฆษณาบนแอพข้อความนี้ได้ทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 60% ซึ่งในตอนนี้ ส่วนแบ่งของไลน์ ที่ดูแลโดยบริษัทนาเวอร์ของเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4% ก่อนช่วงบ่าย ได้รับไป 0.25 เปอร์เซ็นเมื่อเทียบกับดัชนีนิคเคอิ