“กสม.” แนะสมาคมนักข่าวฯ นำมติครม. ปรับใช้ป้องกันล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงาน

วันที่ 30 มกราคม 2561 นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกล่าวว่า ตามที่ คณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้เปิดเผย ผลการพิจารณารายงานการแสวงหาข้อเท็จจริงกรณีผู้บริหารองค์กรสื่อมีพฤติกรรมเข้าข่ายคุกคามทางเพศ กรณีมีกระแสข่าวตามสื่อสังคมออนไลน์ พาดพิงถึงผู้บริหารองค์กรสื่อแห่งหนึ่งว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายคุกคามทางเพศ และมีกลุ่มนักข่าวกลุ่มหนึ่งส่งจดหมายเปิดผนึกเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ เพื่อเรียกร้องให้สมาคมนักข่าวฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยต่อมาคณะกรรมการบริหารสมาคมนักข่าวฯ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว และปรากฏมีรายงานการแสวงหาข้อเท็จจริง โดยระบุว่าได้มีการประชุมและพบผู้ให้ข้อมูลตั้งแต่ผู้เกี่ยวข้องกับการสื่อสารทางสาธารณะต่อกระแสข่าว ผู้ใกล้ชิดกับผู้ถูกกล่าวอ้างถึงทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ผู้โพสต์ข้อความพาดพิงถึงผู้ถูกกล่าวอ้างถึงทั้งฝ่ายชายและ
ฝ่ายหญิง ไปจนถึงผู้ถูกกล่าวอ้างถึงฝ่ายชายและผู้ถูกกล่าวอ้างถึงฝ่ายหญิง รวมผู้ให้ข้อมูลทั้งหมด ๑๑ คน โดยการประชุมและการพบกับผู้ให้ข้อมูลทุกครั้งเป็นไปในทางลับ  ตามที่ปรากฏในข่าวเมื่อวันที่
๒๙  มกราคม ๒๕๖๑ นั้น

นางอังคณาเปิดเผยว่า ในฐานะผู้รับผิดชอบด้านสิทธิและความเสมอภาคทางเพศสภาพ ขอชื่นชมสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการคุกคามทางเพศในการทำงานในฐานะสื่อมวลชน และขอยืนยันการเคารพในเสรีภาพของสื่อ อย่างไรก็ดี ในฐานะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีความเห็นว่าสาระสำคัญของรายงานการตรวจสอบที่ระบุว่า “บุคคลหนึ่งได้รับการปลูกฝังมาในเรื่องการให้ความเคารพต่อผู้ใหญ่ และวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับผู้บังคับบัญชา จึงมีการดูแลบุคคลอีกคนหนึ่งในลักษณะที่ใกล้ชิดสนิทสนม การให้ความไว้วางใจ ซึ่งมีบางเรื่องที่ความไว้วางใจเป็นเหตุทำให้เกิดความเข้าใจในลักษณะที่เป็นการตีความเข้าข้างตนเองของอีกฝ่ายหนึ่ง จนอาจนำไปสู่ความสุ่มเสี่ยงต่อการคุกคามทางเพศ เพราะต่างตีความเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยมุมมองที่แตกต่างกัน”  นั้น  เป็นการแสดงให้เห็นถึงการนำวัฒนธรรมองค์กร การปฏิบัติระหว่างผู้บังคับบัญชาต่อผู้ใต้บังคับบัญชา ความคิดความเชื่อ รวมถึงทัศนคติทางเพศมาเป็นข้อสรุปว่าการคุกคามทางเพศ เป็นสิ่งที่ยอมรับได้

นางอังคณา กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา กสม. ได้พิจารณาเรื่องการคุกคามทางเพศหลายกรณีที่ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้เสียหายจนเกิดภาวะเครียดที่ผิดปกติจากประสบการณ์ที่ถูกกระทำ (Post Traumatic Stress Disorder) ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างบรรทัดฐานในการเคารพความแตกต่างทางเพศ ขอเสนอให้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยนำมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2558  เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงานมาปฏิบัติเพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชนสื่อมวลชนหญิงทุกคน เยียวยาฟื้นฟูจิตใจผู้เสียหาย และลงโทษผู้กระทำผิด ไปใช้ประกอบการพิจารณา  รวมถึงการทำหน้าที่ตรวจสอบที่เกี่ยวข้องกับความผิดทางเพศ ควรคำนึงถึงความต่างในบริบทที่แตกต่างกัน และจำเป็นที่จะต้องมีความละเอียดอ่อน
รอบด้าน อีกทั้งต้องกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมด้วย

“นอกจากนี้ ยังเสนอให้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ปรับปรุงประมวลจริยธรรมขององค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนให้มีการระบุถึงการตระหนักและคำนึงถึงความละเอียดอ่อนในมิติความแตกต่างระหว่างเพศ (Gender Sensitivity) และการกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศไว้เป็นการเฉพาะ โดยควรคำนึงถึงความมีคุณธรรมและจริยธรรมทางเพศอย่างเคร่งครัด และควรกำหนดแนวนโยบายประเด็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศให้ชัดเจน” นางอังคณา กล่าว