ด่วน! สั่งยุบพรรคก้าวไกล ศาลรัฐธรรมนูญ มติเอกฉันท์ พร้อมเปิดชื่อ กก.บห. ที่ถูกตัดสิทธิ10 ปี

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 สิงหาคม 2567 ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมเพื่อแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ และลงมติในคำร้อง โดยนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล (กก.) และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรค และห้ามมิให้ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรค และถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ภายในกำหนด 10 ปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสอง เนื่องจากมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 นั้น

จากนั้น เวลา 15.00 น. องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย

ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล โดย นายอุดม อ่านคำพิพากษา ในคดียุบพรรคก้าวไกล ในกรณีการเสนอเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 เป็นนโยบายหาเสียง

ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสรุปว่า ศาลพิจาณาว่ามีอำนาจวินิจฉัยยุบพรรค การโต้แย้งว่าไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา และไม่ได้ให้ต่อสู้คดี เห็นว่าเป็นคดีเกี่ยวเนื่องกับคดี 3/2567 ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้หยุดการกระทำ ในการเสนอแก้ไขม.112 โดยเห็นว่าเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบัน ดังนั้นการไต่สวนของศาลจึงเป็นธรรมมากกว่าที่นายทะเบียนพรรคการเมืองจะไต่สวน

ที่ระบุว่าเป็นการกระทำโดยส่วนตัว ก็ฟังไม่ได้ เนื่องจากศาลเห็นว่าการเสนอแก้ไขมาตรา 112 มีเนื้่อหาลดคุณค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยพรรคผู้ถูกร้องพรรคเดียว และนำมารณรงค์หาเสียง และปรากฎในเว็บไซต์ จึงถือว่าเป็นผู้ร่วมเสนอร่างแก้ไขกฎหมายดังกล่าว รวมทั้งที่ตกเป็นจำเลย และประกันผู้ต้องหา แม้ไม่ได้มีมติพรรค แต่กก.บห.ก็ต้องควบคุม

จึงมีคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล มีกำหนดเวลา 10 ปี นับจากวันที่ศาลมีคำสั่ง

อย่างไรก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยมีมติเป็นเอกฉันท์ สั่งยุบพรรคก้าวไกล และสั่งตัดสิทธิ์ทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ทั้งชุดที่ 1 และ 2 ที่ดำรงตำแหน่งระหว่างวันที่ 25 มีนาคม 2564 จนถึง 31 มกราคม 2567 รวมทั้งสิ้น 11 คน เป็นเวลา 10 ปี ได้แก่

(1) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค ส.ส.บัญชีรายชื่อ
(2) ชัยธวัช ตุลาธน อดีตเลขาธิการพรรค ส.ส.บัญชีรายชื่อ
(3) ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค
(4) ณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค
(5) ปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตกรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคเหนือ
(6) สมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคใต้
(7) อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคกลาง
(8) อภิชาต ศิริสุนทร กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
(9) เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคตะวันออก ส.ส.บัญชีรายชื่อ
(10) สุเทพ อู่อ้น กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนปีกแรงงาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ
(11) อภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคเหนือ