ฐากร ชี้ 2 ทางออก ดิจิทัลวอลเล็ต มองหากรบ.ยังเดินตามเดิมส่อขัด พรบ.วิธีการงบประมาณ 2561

ฐากร ชี้ ดิจิทัลวอลเล็ต หากรัฐบาลยังเดินตามเดิมส่อขัด พรบ. วิธีการงบประมาณ 2561 ชี้ 2 แนวทางออก ให้รัฐบาลแจกเงินทันทีผ่านแอพพ์เป๋าตังค์ อีกทางให้ตั้งงบใหม่ปี 2668 ผูกพัน 2569 เตือนให้ทำตามขั้นตอนเพื่อให้ประชาชนได้รับเงินจริงๆ

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2567 ซึ่งจะเปิดอภิปราย วาระ 2-3 ในวันพุธที่ 31 กรกฏาคมนี้ ผมเสนอให้ปรับลดหรือตัดงบประมาณ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต กรอบวงเงิน 122,000 ล้านบาท ออกไปทั้งหมด เนื่องจาก สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ขณะนี้ส่อขัดกฎหมายชัดเจน

นายฐากรกล่าวว่าตาม พ.ร.บ. วิธีการงบประมาณปี 2561 มาตรา 43 กำหนดไว้ว่า “การขอเบิกเงินจากคลังตามงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณใด ให้กระทำได้แต่เฉพาะภายในปีงบประมาณนั้น และวรรคสองระบุต่อไปว่า ” ในกรณีที่ไม่สามารถเบิกจ่ายจากคลังได้ภายในปีงบประมาณ ให้ขยายเวลาขอเบิกเงินจากคลังได้เฉพาะในกรณีที่หน่วยรับงบประมาณได้ก่อหนี้ผูกพันก่อนสิ้นปีงบประมาณและได้มีการกันเงินไว้ตามระเบียบเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว”

จากกฎหมายดังกล่าวถึงแม้ว่ารัฐบาลจะผ่านร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2567 ไปทั้งวาระที่2 และวาระที่3 แล้วก็ตาม แต่รัฐบาลก็ไม่สามารถที่จะกั้นเงินจำนวน122,000ล้านบาทไว้ได้ เพราะการที่รัฐบาลจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนในวันที่ 1 สิงหาคมนั้น ไม่ใช่การก่อหนี้ผูกพันก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2567 ตามที่กฎกมายระบุแต่อย่างใด ดังนั้นจะส่งผลให้เขงินงบประมาณจำนวน 122,000ล้านบาท จึงต้องตกไปโดยผลของกฎหมายทันที

ประกอบกับมาตรา 21 ของพรบวิธีการงบประมาณเช่นกันยังกำหนดต่อไปว่า “การจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ให้กระทำได้เมื่อมีเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องใช้จ่ายระหว่างปีงบประมาณ โดยไม่สามารถรองบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณถัดไปได้” ซึ่งทั้งสองมาตราดังกล่าวรัฐบาลต้องชี้แจงให้ชัดเจนเพราะมีความเสี่ยงอย่างมากในการ ที่จะขัดบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าว

“ผมอยากให้ประชาชนได้รับเงิน 10,000 บาท เพราะขณะนี้พี่น้องประชาชน ได้รับความลำบากและมีมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินดังกล่าว ดังนั้น ผมอยากเสนอเสนอทางออกให้กับรัฐบาลที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุดในการดำเนินการดังนี้

1) หาก พรบ. ประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2567 กรอบวงเงิน 122,000 ล้านบาทมีผลบังคับใช้แล้ว ขอให้รัฐบาลแจกเงินดังกล่าวให้กับพี่น้องประชาชนในทันทีโดยแจกผ่านแอป เป๋าตังค์ เฉพาะในกลุ่มพี่น้องประชาชนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่สุดก่อนและดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 30 กันยายน 2567 นี้

2 ส่วนยอดที่เหลืออีก328,000 ล้านบาท เสนอแจกผ่านดิจิตอล Wallet เช่นเดิม โดยรัฐบาลได้ตั้งงบประมาณในปี 2568ไว้แล้ว 152,700 ล้านบาท ยังคงเหลือวงเงินอีก 175,300 ล้านบาท รัฐบาลสามารถตั้งเป็นงบประมาณผูกพันข้ามปีในปี 2569 ต่อได้ เพราะขณะนี้งบประมาณปี 2568 ยังคงอยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการวิสามัญพิจารณางบประมาณอยู่ ผมไม่อยากให้รัฐบาลเสี่ยงกับปัญหาข้อกฎหมายและติดขัดกับการแจกเงินดังกล่าวไม่ได้ ”

นายฐากรกล่าวระบุต่อไปว่า ผมอยากให้ประชาชนได้รับเงิน 10,000 บาทจริงๆ ไม่มีความคิดเป็นอคติกับรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพี่น้องประชาชนที่รอคอยเฝ้าเงินนี้อย่างใจจด ใจจ่อตลอดเวลา อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามบทบัญญัติของกฎหมายด้วย