ชาวไฮติฮือประท้วง ‘ทรัมป์’ เหตุวิวาทะ ‘ประเทศโสโครก’

วันที่ 23 มกราคม 2561 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ชาวไฮติราว 2 พันคนได้รวมตัวเดินตามท้องถนนของเมืองหลวง เพื่อประท้วงกรณีคำพูดของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย กล่าวหาหลายประเทศในแอฟริกา เอล ซัลวาดอร์ รวมถึงไฮติว่าเป็น “ประเทศโสโครก” ระหว่างการประชุมเรื่องผู้อพยพ ซึ่งต่อมาถูกเผยแพร่ผ่านสำนักข่าววอชิงตัน โพสต์ของสหรัฐฯ จนส่งผลทำให้เกิดการลุกฮือไม่พอใจไปทั่ว แม้นายทรัมป์จะออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้คำพูดที่ลักษณะเหยียดผิว แต่ผู้เข้าร่วมประชุมคนอื่นๆ รวมถึงนายริชาร์ด เดอร์บิน วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต ต่างออกมาให้ความเห็นตรงกันข้าม

โดยกลุ่มผู้ประท้วงตามขึ้นโปสเตอร์รูปนายทรัมป์ที่ระบุตำแหน่งทวารหนักอยู่ตรงปาก และภาพล้อเลียนนายทรัมป์เกี่ยวกับส่วนต่างๆของร่างกาย

นายมาร์เวล โจเซฟ ที่โบกธงชาติกล่าวว่า นายทรัมป์เป็นพวกเหยียดผิวที่น่าหยาบคาย และพวกเหยีดยดผิวเป็นคนหัวรุนแรงมาก แต่เราไม่รู้สึกขุ่นเคืองต่อชาวอเมริกัน เพราะพวกเขาก็ไม่ชอบใจพฤติกรรมของนายทรัมป์ด้วย

ไม่เพียงเท่านี้ กลุ่มผู้ประท้วงยังออกมาวิจารณ์ นายโจเวเนล มอยส์ ประธานาธิบดีไฮติ โดยผู้ประท้วงมองว่าล้มเหลวในการแสดงท่าทีประณามนายทรัมป์ต่อคำพูดก่อปัญหาในครั้งนี้

ด้านนายสเตฟาน แคมบลี ผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายค้านกล่าวว่า นายโจเวเนลควรลงจากตำแหน่งเพราะเขามีส่วนที่ปล่อยให้นายทรัมป์เชื่อว่าเขาสามารถพูดอะไรสกปรกกับประเทศได้

รายงานระบุว่า ต่อมารัฐบาลไฮติได้ออกมาประณามคำพูดของนายทรัมป์แล้ว เช่นเดียวกับสถานทูตไฮติในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจของไฮติกล่าวว่า การประท้วงควรจบตรงภายนอกสถานทูตสหรัฐฯ ซึ่งผู้จัดการประท้วงวางแผนที่จะอ่านแถลงการณ์ แต่พวกเขาถูกยับยั้งไม่ให้เข้าไปถึงพื้นที่อาคารเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะที่อาจจะเกิดขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม แม้ชาวไฮติส่วนมากประณามคำพูดของนายทรัมป์ แต่มีบางส่วนที่ไม่เข้าร่วมการประท้วงเพราะเห็นว่าเป็นการรวมตัวของกลุ่มต่างๆที่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลให้การสนับสนุน แต่ไม่มีรายงานเหตุร้ายแรงใดๆเกิดขึ้นในช่วงการประท้วง