องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยว่า ตัวเลขอัตราว่างงานทั่วโลกมีแนวโน้มลดลงในปีนี้ โดยในรายงาน “อนาคตการจ้างงานและสังคม” ที่ไอแอลโอจัดทำขึ้นระบุว่า อันตราการว่างงานทั่วโลกปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ 5.5 ซึ่งดีขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนที่ร้อยละ 5.6 ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตทางเศรษฐกิจในวงกว้าง

อย่างไรก็ดี ไอแอลโอย้ำว่า มีปัญหาร้ายแรงเกี่ยวกับภาพรวมของตลาดแรงงานโลก เนื่องจากแรงงานจำนวนมากยังคงมีชีวิตอยู่อย่างยากจนข้นแค้น และแนวโน้มดังกล่าวแพร่กระจายออกไปอย่างมาก เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังไม่สามารถสร้างงานได้อย่างเพียงพอ

ไอแอลโอบอกด้วยว่า แรงงานจำนวนมากที่แม้จะมีการจ้างงานแต่ก็ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เปราะบาง อาทิ แรงงานที่ถูกจ้างงานอย่างไม่เป็นทางการเพื่อแลกกับค่าจ้างเพียงน้อยนิด และไม่ได้รับการคุ้มครองด้วยสัญญาจ้างงานหรือได้รับสิทธิประโยชน์ทางสังคม

แม้จะมีความพยายามที่จะลดจำนวนแรงงานที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ แต่ดูเหมือนว่าการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะหยุดชะงักไปตั้งแต่ปี 2555 โดยปัญหานี้จะพบมากในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งแรงงานถึง 3 ใน 4 จะถูกจัดไว้ในกลุ่มแรงงานที่มีความเสี่ยงดังกล่าว

สเตฟาน คุนน์ นักเศรษฐศาสตร์ซึ่งเป็นผู้นำทีมศึกษาและเขียนรายงานของไอแอลโอชี้ว่า ราวร้อยละ 40 ของแรงงานที่ได้รับการจ้างงานในประเทศกำลังพัฒนายังคงใช้ชีวิตในสถานะของผู้ที่ยากจนข้นแค้นอย่างหนัก

ทั้งนี้ ปัญหาความไม่เท่าเทียมในการเติบโตทางเศรษฐกิจ และความแตกต่างของความร่ำรวยในโลกที่อยู่ในมือคนเพียงกลุ่มเล็กๆ เป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่คาดว่าจะมีการหยิบยกมาพูดคุยในที่ประชุมเวิล์ด อีโคโนมิคส์ ฟอรั่ม ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 23 มกราคมนี้