บิ๊กตู่ ลั่น ต้องมีกำลังรบ โต้บัตรคนจนไม่ใช่ประชานิยม แค่ให้เข้าถึงโอกาส

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 22 มกราคมที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างปาฐกถากล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ผู้บริหารส่วนราชการกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ : One Country One Team” ให้กับผู้บริหารระดับสูงว่า ยืนยันประเทศไทยจำเป็นต้องมีความพร้อมด้านความมั่นคง เห็นหลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อว่าประเทศไทยควรมุ่งเน้นเรื่องสงครามโซเชียลมากกว่าการพัฒนาด้านกำลังรบ และคิดว่าอันตรายมาก เพราะเรามีเส้นเขตแดนกว่า 5 พันกิโลเมตร หากไม่พัฒนาด้านกำลังรบจะเอาอะไรมาดูแลเพื่อให้มีศักยภาพกับสงครามตรงนี้ เราไม่ได้ต้องการรบกับใคร แต่ก็ไม่ต้องการให้ใครมาละเมิดอธิปไตยของเรา และมีชีวิตของประชาชน ชีวิตของทหาร แล้วมาพูดอย่างนี้ คิดว่ามันเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ มันจำเป็นต้องพร้อมทุกอย่าง เพราะเราไม่รู้ในโลกจะเกิดอะไรขึ้น และเราต้องติดตามข่าวต่างประเทศเพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนด้วย ไม่เช่นนั้นจะถูกชักจูงไปกันหมดว่าจะเอางบประมาณมาทุ่มเทให้ตรงนี้อย่างเดียว ทั้งที่ประชาชนยังเดือดร้อน ตนก็ไม่รู้ว่าอย่างอื่นไม่สำคัญเลยหรือ

“ส่วนตัวผมไม่เคยไปวิ่งเต้นกับใครเพื่อขอตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นนาย หรือใครจะทะเลาะกับใครแต่ผมก็ทำงานของผม ความผูกพันอยู่ที่ว่าจะรักเราหรือไม่รักเรา ซึ่งเราต้องมีศักดิ์ศรีในการทำงาน แม้เราจะได้รับการแต่งตั้ง แต่ถ้าคนในองค์กรไม่รักเรา แล้วเราจะอยู่อย่างไร นั่นจะก่อให้เกิดความเสียหายไปทั้งองค์กร ข้าราชการจะต้องทำให้ลูกน้องภูมิใจในตัวท่าน สร้างศักดิ์ศรีให้ตัวเอง อย่างที่ผมสั่งงานไปเยอะแยะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เพราะถ้าไม่สั่งทุกอย่างก็จะเดินไปไม่ได้”นายกฯกล่าว

นายกฯกล่าวว่า เข้าใจว่าทุกคนมีปัญหา คนทำงานก็อยากขึ้นเงินเดือน ทั้งนี้การขึ้นเงินเดือนจะต้องพิจารณาโดยรวมในการทำงานของรัฐบาลนั้นจะต้องวางแผนในระยะเร่ิมต้น 5 ปี จึงต้องมีการลงทุนเป็นจำนวนมาก จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลลงทุนมากเกินไป อย่างไรก็ตามนโยบายของรัฐบาลเช่นบัตรคนจน ขอยืนยันว่า ไม่ใช่ประชานิยม แต่เราทำเพื่อทุกคนให้มีความเท่าเทียมกัน โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสเพื่อผู้มีรายได้น้อย เพราะเรื่องของความเท่าเทียมและความยากจน ส่วนใหญ่มักจะนำไปสู่ความขัดแย้ง