“บิ๊กเต่า” แถลงยันรัฐบาลเร่งรัดจัดการที่ดินทำกินให้ชุมชน

“บิ๊กเต่า” แถลงผลประชุม กทช. ย้ำ รัฐบาล เร่งรัด จัดการที่ดินทำกินให้ชุมชน หวังให้คนอยู่กับป่า ยึด สโลแกน “รัฐได้ป่าประชาได้ ที่ทำกิน” แก้ปัญหาคนกับป่าอะไรเกิดก่อนกัน

เมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธาน ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ ต้องการให้ประชาชนมีความสุข เพื่อให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันได้ ได้เร่งรัดการ จัดการที่ดินทำกินให้ชุมชนโดยให้ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมายทั่วประเทศโดยเร็ว แก้ปัญหาที่ดินทำกินของราษฎรผู้ยากไร้ที่ไม่มีที่ทำกินเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนในรูปแบบของสหกรณ์หรือรูปแบบอื่นที่เหมาะสม ทั้งนี้เพื่อให้ราษฎรมีที่ดินทำกินในที่ดินของรัฐอย่างถูกต้องตามกฏหมายตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ โดยกำหนดเป้าหมายพื้นที่การจัดที่ดินทำกินทั้งสิ้น 371 พื้นที่ใน 66 จังหวัดเนื้อที่ประมาณ 1,043,306 ไร่ โดยการจัดที่ดินให้ชุมชนที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ 3 อย่าง ได้แก่ 1.เร่งรัดจัดที่ทำกินให้ชุมชนที่ยังค้างคาอยู่เดิมให้รวดเร็วยิ่งขึ้น 2.ในพื้นที่ลุ่มน้ำ 1,2 และลุ่มน้ำ 3,4,5 ที่ไม่อยู่ในขอบเขตที่จัดสรรอยู่เดิม แต่ประชาชนอยู่จำนวนมาก ซึ่งตามกฎหมายอธิบดีกรมป่าไม้มีอำนาจอนุญาต แต่วันนี้กระทรวงทรัพย์ฯ ได้ตั้งคณะทำงานร่วมกับประชาชนในพื้นที่ทุกชนเผ่าร่วมออกแบบพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่ทำกินได้ และมีพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น และ3.พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและพื้นที่อุทยาน ซึ่งขณะนี้อธิบดีกรมอุทยานฯ ยังไม่มีอำนาจอนุญาตให้ใครใช้พื้นที่ได้ ประชาชนจึงอาศัยในพื้นที่ด้วยความกังวล

“ที่ผ่านมาเมื่อได้ลงพื้นที่จริงๆ ก็พบปัญหาต่างๆ เช่นที่จ.แม่ฮ่องสอน ที่นายกฯ ลงพื้นที่ พบว่ามีประชาชนอาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำ3,4,5 จำนวนถึง 40-50% แต่ยังไม่ได้พิสูจน์ว่ามาก่อนมิถุนายน พ.ศ.2541หรือไม่ และมีอีกส่วนอาศัยในพื้นที่อุทยานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ประชาชนจึงกล่าวหารัฐว่านำกฎหมายไปทับที่ประชาชน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นปัญหาในอดีต แต่จากวันนี้รัฐบาลจะแก้ไขและต้องการให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข จึงแก้ไขร่างพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ และร่างพ.ร.บ.ป่าสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า เพื่อให้อำนาจอธิบดีสามารถอนุญาตให้คนอยู่ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้รัฐบาลกำลังขับเคลื่อนเพื่อให้ประชาชนอยู่ร่วมกับป่าอย่างสมดุล หรือเรียกว่า รัฐได้ป่า ประชาได้ที่ทำกิน โดยเน้นประชาชน เน้นป่า และเน้นการพัฒนาประเทศ อาศัยความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ระหว่างประชาชนกับข้าราชการของรัฐ โดยเร่งดำเนินการที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนแล้วจึงขยายไปจังหวัดอื่นๆต่อไป”พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าว

ด้านนางรวีวรรณ ภูริเดช เลขาสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) กล่าวว่า นายกฯ มอบนโยบายเพิ่มเติมว่า นอกจากการจัดที่ดินทำกินให้เกษตรกรแล้ว ต้องให้ความสำคัญในการจัดพื้นที่อยู่อาศัยให้คนจนที่อาศัยในเมืองด้วย เช่น ในพื้นที่ราชพัสดุและพื้นที่อื่นๆ ขณะเดียวกันที่ประชุมได้เห็นชอบหลักเกณฑ์จัดที่ดินให้ประชาชนในพื้นที่อื่นๆ อาทิ เพิ่มเติมหลักเกณฑ์ให้เกษตรกรรุ่นใหม่ให้มีสิทธิได้รับการจัดสรรที่ดินในพื้นที่สปก.อีกด้วย