สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้ (17 มกราคม 2561) ว่า นายเจฟฟ์ เฟลกซ์ สมาชิกวุฒิสภาเมืองอริโซน่าจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นพรรคเดียวกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดฉากสาดคำวิจารณ์ไปยังประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยกล่าวหานายทรัมป์ใช้สำนวนแบบผู้นำเผด็จการคอมมิวนิสต์โจมตีและบ่อนทำลายสื่อ โดยนายเฟลกซ์กล่าวว่า นายทรัมป์ไม่ใยดีีต่อความจริิงและย้ำเรียกสื่อว่าเป็นศัตรู

“ศัตรูของประชาชน นี่คือสิ่งที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯใช้เรียกสื่อในปีที่แล้ว” นายเฟลกซ์กล่าวและว่าท่านประธานาธิบดีเป็นสิ่งบ่งบอกได้ถึงสภาพของประชาธิปไตยของเราว่าผู้นำของเราใช้ถ้อยคำเลวร้ายอย่างที่โจเซฟ สตาลิน ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียตบรรยาถึงศัตรูของเขา และที่บ่งบอกถึงความอาฆาตพยาบาทนั้นคือวลี “ศัตรูของประชาชน” ซึ่งแม้แต่นิกิต้า ครุฟเชฟ ไม่อยากใช้

นายเฟลกซ์ ยังกล่าวถึงทำเนียบขาวที่ออกมาโจมตีรายวันกับสิทธิในการแสดงความคิดเห็นที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่าเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และกล่าวหานายทรัมป์ในการกระทำด้วยศีลธรรมแบบคนเถื่อนต่อความจริง จากเรื่องที่ให้สอบสวนใบสูติบัตรนายบารัค โอบาม่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไปจนถึงเรื่องรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาว่าเป็นเรื่องหลอกหลวง และเตือนด้วยว่านายทรัมป์ กำลังส่งเสริมระบบเผด็จการทั่วโลกให้หันมาข่มเหงกับสื่อมวลชน

“ปี 2017 ถือว่าเป็นปีที่ได้เห็นความจริง ทั้งในเชิงวัตถุวิสัย เชิงประจักษ์ เชิงหลักฐานถูกทำลายมากขึ้นและทารุณมากกว่าช่วงเวลาใดในประวัติศาสตร์ของประเทศเรา ด้วยน้ำมือของผู้นำที่ใหญ่ที่สุดของรัฐบาลเรา” นายเฟลกซ์กล่าวและเตือนด้วยว่า หากปราศจากความจริงและความซื่อสัตย์ในหลักการของความจริงและแบ่งปันข้อเท็จจริงแล้ว ท่านประธานาธิบดี ประชาธิปไตยของเราจะไม่อยู่ยืนยงแน่

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายทรัมป์ได้ทวิตข้อความว่าตนจะมอบรางวัล “สื่อจอมปลอม” ให้กับสื่อกระแสหลักจอมอคติและฉ้อฉลที่สุด แต่เมื่อวานนี้ ทำเนียบขาวยังคงหลบเลี่ยงที่จะตอบประเด็นถกเถียงที่ครั้งหนึ่งดูล่าช้าแต่ได้เกิดขึ้น