วันที่ 16 มกราคม 2561 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นายหยู เหวินเชิ้น ทนายความและนักเคลื่อนไหวชื่อดังของจีน ได้เปิดเผยว่า ตนถูกทางการถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทนายความ หลังจากเขียนจดหมายเปิดผนึกวิพากษ์วิจารณ์นายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน โดยทนายความที่อาศัยอยู่ในกรุงปักกิ่งรายนี้กล่าวว่า ตนเชื่อว่า การถอนใบอนุญาตครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการตอบโต้การเขียนจดหมายเปิดผนึก แต่นั้นกลับทำให้เขาสานต่อการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน และไม่คิดจะยอมแพ้อีกด้วย

ด้านกรมยุติธรรมประจำกรุงปักกิ่ง ได้ออกหนังสือชี้แจงสาเหตุที่ถอนใบอนุญาตนายหยูว่า มาจากการที่นายหยูไม่ได้ไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัทกฎหมายที่ขึ้นทะเบียนกับทางการมาเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว และจากการสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานดังกล่าว ระบุว่าเป็นคดีที่ไม่คุ้นเคยมาก่อนและปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม

ขณะที่ นางซู หยาน ภรรยานายหยู กล่าวแถลงกับสื่อว่า ทั้งตนและสามีได้ใช้เงินถึง150,000 หยวนในการทำงานว่าความอิสระให้กับนายหยูหลังลาออกจากบริษัทเก่าเมื่อปีที่แล้ว และตอนนี้กรมการยุติธรรมของปักกิ่งกล่าวว่ามันจะต้องไม่เกิดขึ้น

สำหรับชุดประเมินผลปฏิบัติของบริษัทกฎหมายและทนายความของจีนนี้ ถูกแก้ไขใหม่ในปลายปี 2559 และรวมถึงการตรวจสอบการพูดและหลักปฏิบัติของทนายความระดับสูง เช่นเดียวกับความต้องการในความจงรักภักดีทางการเมืองสำหรับบริษัทและผู้ปฏิบัติกฎหมายในระดับสูง แต่กลุ่มองค์กรสิทธิฯมองว่า การทบทวนหลักปฏิบัตินี้มุ่งยับยั้งชุมชนทางกฎหมายในการเข้าไปข้องเกี่ยวกับคดีสิทธิมนุษยชนที่อ่อนไหวหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพิจารณาคดีทางการเมือง

ก่อนหน้านี้นายหยู ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในความพยายามปกป้องนายหวัง ควนชาง ทนายความสิทธิฯร่วมงาน ซึ่งถูกคุมขังได้ 900 วันจากข้อหาล้มล้างอำนาจรัฐ ซึ่งภรรยาของนายหวังได้ขอให้นายหยูมาเป็นทนายความให้เพราะนายหวังปฏิเสธทนายความที่รัฐจัดหามาให้

ทั้งนี้ นายหยู ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาต่อเนื่องหลายปี ซึ่งได้ปราบปรามทนายความสิทธิมนุษยชนและนักเคลื่อนไหว ซึ่งทำให้หลายร้อยถูกคุมขังและหลายสิบคนถูกจับ โดยทางการจีนกล่าวสั้นในการจับกุมนายหยูเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วว่า นายหยูเขียนจดหมายเปิดผนึกระบุว่านายสี ไม่เหมาะสมที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำจีนเพราะจะนำประเทศไปสู่การปกครองแบบเผด็จการ