สรุปข่าวในประเทศ : “บิ๊กตู่” สั่งเบรกแก้กฎรับของขวัญเกิน3พันบาท / ชี้ส่งตัว’ยิ่งลักษณ์’กลับขึ้นอยู่กับ”อังกฤษ”

สรุปข่าวในประเทศ หน้า 7 

พระราโชวาทวันเด็กแห่งชาติ ปี 2561ทรงให้จัดงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว”

เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 ซึ่งตรงกับวันที่ 13 มกราคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราโชวาทเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ความว่า “บ้านเมืองเรามีสิ่งดีงามมากมาย ที่บรรพบุรุษได้สร้างสมไว้ให้เรา เด็กทุกคนผู้เป็นอนาคตของชาติจึงมีหน้าที่สืบสานและรักษาสิ่งดีงามเหล่านั้นไว้ พร้อมทั้งสร้างเสริมพัฒนาให้เจริญงอกงามยิ่งๆ ขึ้นไป”

ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยราชการในพระองค์จัดงานฤดูหนาวขึ้นภายใต้ชื่อ “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์-11 มีนาคม เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี โดยมีลักษณะงานแบบย้อนยุค โดยแบ่งเป็น 3 โซน คือ 1.โซนพระลานพระราชวังดุสิต จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมสยามประชารำฦก นำเสนอพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ร.5 และ ร.9 ออกแบบตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมสมัย ร.5 และ ร.9 มีการจัดสวน พันธุ์ไม้ และน้ำพุ งานประดิษฐ์ตามศิลปะไทยแบบชาววัง 2.โซนสนามเสือป่า จัดร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์และร้านค้ารับเชิญ เช่น ร้านศิลปาชีพ 904 ร้านภูฟ้า ร้านจิตรลดา ร้านของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ร้านมูลนิธิโครงการหลวง ร้านแม่บ้านเหล่าทัพ ฯลฯ โดยเงินรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายสินค้าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก นอกจากนี้ ยังมีการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านและฉายหนังกลางแปลง 3.โซนร้านอาหารและร้านค้าในแนวคิดใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร สืบสานชุมชน วิถีไทย โดยจะจัดซุ้มร้านอาหารไทยโบราณที่มีรสชาติอร่อย จำนวนประมาณ 30 ร้าน รวมทั้งมีการสาธิตเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น และมีร้านสตูดิโอให้ถ่ายภาพย้อนยุคด้วย ทั้งนี้ เหล่าพ่อค้าแม่ค้าจะแต่งกายด้วยชุดไทยย้อนยุค และเชิญชวนประชาชนที่ไปร่วมงานแต่งกายย้อนยุคสมัย ร.5 หรือสวมใส่ผ้าไทย หรือชุดสุภาพตามสมัยนิยม

“ดอน” คอนเฟิร์ม “ยิ่งลักษณ์” อยู่ลอนดอน”บิ๊กตู่” ชี้ขึ้นอยู่กับ “อังกฤษ” ส่งตัวกลับหรือไม่

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 9 มกราคม กรณีที่มีภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปรากฏตัวที่ประเทศอังกฤษ ว่า เรื่องดังกล่าวมีการรับรู้กันมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2560 เนื่องจากรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษเล่าให้ฟังว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์อาจถือพาสปอร์ตของชาติอื่น เพราะขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้เพิกถอนพาสปอร์ตของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทุกฉบับแล้ว

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ ต้องสอบถามไปทางกระทรวงการต่างประเทศ และในส่วนของขั้นตอนต่างๆ เรื่องของคดีความ เป็นเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่จะดำเนินการตามขั้นตอน แต่ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าไม่ค่อยได้รับการส่งตัวมาจากต่างประเทศ เพราะเป็นเรื่องของประเทศนั้นๆ ซึ่งมีหลักในการพิจารณาในส่วนของประเทศเขา เราขอไปได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องค่อยๆ ทำกันต่อไป ยืนยันว่าไม่ได้ปล่อยปละละเลยใครใดๆ ทั้งสิ้น

“ทิชา” แฉผลสอบ “บิ๊กสื่อ”คุกคามทางเพศ แค่หมาหยอกไก่

เมื่อวันที่ 9 มกราคม นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยกรณีมีการตั้งคณะอนุกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริง กรณีผู้บริหารสื่อแห่งหนึ่ง ถูกกล่าวหาคุกคามทางเพศ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 ว่า ขณะนี้ครบกำหนด 90 วันแล้วแต่ยังไม่รายงานผล แต่จากที่ได้ยินข้อมูลมา ผลการสอบสวนจะออกไปในลักษณะหมาหยอกไก่ ทำให้เรื่องออกมาไม่รุนแรง เป็นความเจ้าเล่ห์วงการสื่อ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว หมาหยอกไก่มันก็อยู่ในชุดความคิดของการล่วงละเมิดทางเพศอยู่ดี จริงอยู่ที่การคุกคามทางเพศอาจจะไม่ใช่การร่วมเพศ แต่ก็เป็นขั้นต้นเพื่อปูทางไป หากผลออกมาในลักษณะนี้ ก็จะขัดกับข้อมูลที่เราได้มาจากฝ่ายที่อ้างว่าถูกคุกคามทางเพศ ทั้งยังสะท้อนชัดว่า โครงสร้างขององค์กรสื่อเองก็เป็นระบบอุปถัมภ์ค้ำจุนกัน เหมือนเสือไม่กินเนื้อเสือ ไม่ต่างจากโครงสร้างหน่วยงานรัฐ แต่ขณะเดียวกัน ก็ได้ข้อมูลมาว่า บิ๊กสื่อคนดังกล่าวมีการขอเจรจากับฝ่ายที่อ้างว่า ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งยังมีการขอโทษกับเพื่อนร่วมงาน ที่เกิดเรื่องอื้อฉาวนี้ขึ้น แต่ขอให้ปิดเรื่องนี้ไว้รู้กันแค่ภายใน จึงทำให้ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าไม่ได้ผิดจริงแล้วจะขอโทษทำไม

“บิ๊กตู่” สั่งเบรกแก้ประกาศ ป.ป.ช.รับของขวัญเกิน 3 พันบาท-ลั่นไม่จำเป็น

วันที่ 9 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะแก้ไขประกาศ ป.ป.ช. เพื่อเพิ่มมูลค่าให้หรือรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดของเจ้าหน้าที่รัฐจากเดิมที่กำหนดไว้ 3,000 บาท ว่า ได้สั่งการไปแล้วว่า ไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่จะต้องไปเพิ่มวงเงิน 3,000 บาท เพราะวันนี้เวลาไปต่างประเทศ ถ้ารับของขวัญหรือของที่ระลึกเกิน 3,000 บาท ก็ต้องรายงานและส่งหน่วยงานต้นสังกัดทั้งหมด

และตน เมื่อได้รับมา ก็ส่งสำนักนายกรัฐมนตรีกลั่นกรอง รวมถึงเก็บไว้ที่ตู้โชว์ที่ทำเนียบรัฐบาล อยู่ในบัญชีเยอะแยะไปหมด ของที่มีมูลค่าเกินก็รับไม่ได้อยู่แล้ว