‘ชลน่าน’ ลั่นไม่ได้เป็นคนตรวจ ‘ทักษิณ’ ไม่รู้เป็นอะไร เผยอยากไปกราบเยี่ยม ชี้เป็นสามัญสำนึกของคน ยกเป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของสมาชิกพรรคเพื่อไทย

วันที่ 19 ก.พ. 2567 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และสส.น่าน พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงอาการป่วยของ “นายทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึง “ทักษิณโมเดล” ในการไม่ต้องรับโทษในเรือนจำ ว่า ต้องว่าไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นกฎหมายในการกำหนดโรคหรือความเห็นของแพทย์ที่ดูแลผู้ต้องขังรายนั้นๆ ซึ่งจะมีกฎหมายของกรมราชทัณฑ์และวิชาชีพทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องเข้าไปรองรับ

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า สธ.ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่เข้าไปกำหนดประเภทหรือชนิดของโรคที่เข้าข่ายในการที่จะได้รับพักโทษหรือไม่ได้รับพักโทษต่างๆ ถ้าไม่มีกฎหมายรองรับตรงนี้ สธ.ก็ไม่สามารถไปดำเนินการได้

เมื่อถามว่า สธ.สามารถออกความเห็นว่าความรุนแรงของโรคแค่ไหน ควรจะอยู่ในเรือนจำ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นหน้าที่ที่มอบให้กับแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตามจรรยาบรรณและจริยธรรมของแพทยสภาที่ตัวเองเป็นสมาชิก ซึ่งตนเป็นนายกสภาพิเศษของแพทยสภา หากมีประเด็นอะไรก็นำเข้าสู่ที่ประชุมพิจารณา ดังนั้น สธ.ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ตรงนั้น ส่วนความเห็นของแพทย์ทั่วไปที่วิพากษ์วิจารณ์ทำได้อยู่แล้ว

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า เหตุในการพักโทษจะมีองค์กรที่ปรึกษาหารือเป็นคณะกรรมการทางด้านการแพทย์กำหนดไปให้ ซึ่งไม่ได้ขอความเห็นจาก สธ. ซึ่งการได้รับยกเว้นโทษ จะมีองค์กรแพทย์ ที่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา เหมือนกับคณะกรรมการที่จะตัดสินว่าพักโทษหรือไม่พักโทษจะมีองค์ประกอบของเขา

เมื่อถามถึงกรณีประชาชนมองว่าที่อดีตนายกทักษิณป่วยหนักหลังออกจากโรงพยาบาลตำรวจ เป็นการแสดงละคร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “ผมไม่ได้ตรวจเอง เลยตอบไม่ได้ว่าท่านเป็นอะไร ผมก็เห็นเหมือนพวกเราเห็น จะเป็นละครหรือไม่ ตอบไม่ได้ คนมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ สังคมไทยเป็นเช่นนั้น เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ”

เมื่อถามว่ามีการพูดคุยกับนายทักษิณหรือยัง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยิ่งยาก เพราะตนเพิ่งกลับมาจากจ.สกลนคร เมื่อคืนวันที่ 18 ก.พ.

เมื่อถามว่าจะไปเยี่ยมท่านหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของสมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ก่อตั้งไทยรักไทย อะไรที่สมควรที่กฎหมายไม่ได้บัญญัติห้ามไว้ ควรกระทำ ตนอยากไปกราบเยี่ยมท่าน ในฐานะที่เคยเป็นสมาชิกไทยรักไทยมา ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เคยสนับสนุนและแนะนำเรามา ให้โอกาสเราได้มาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน เรื่องนี้เป็นสามัญสำนึกของคน ไม่เกี่ยวกับหน้าที่

เมื่อถามว่ามีคิวจะไปเยี่ยมวันไหน นพ.ชลน่าน กล่าวย้ำด้วยเสียงเข้มว่า “เป็นสำนึกของความเป็นมนุษย์ มันก็เลยไม่มีคิว”