เว็บไซต์ไฟแนลเชียล ไทม์สรายงานเมื่อวานนี้ว่า ประเทศเอธิโอเปียประกาศแผนปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองทุกคน พร้อมสั่งปิดเรือนจำที่คุมขังนักโทษเหล่านี้และขยายพื้นที่ประชาธิปไตยให้มากขึ้น เพื่อสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นกับประเทศ โดยความคืบหน้าที่คาดไม่ถึงนี้ มีขึ้นเมื่อนายไฮลีมาเรียม เดซาเล็ก นายกรัฐมนตรีเอธิโอเปีย ได้จัดแถลงข่าวร่วมกับหัวหน้าพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลอีก 3 พรรค และกล่าวว่า นักการเมืองที่ถูกพิจารณาคดีหรือถูกตัดสินลงโทษจะถูกเพิกถอนคดีและได้รับอภัยโทษ และยังอนุญาตให้เข้าร่วมการเวทีเจรจาระดับชาติที่จะขยายพื้นที่ทางการเมืองให้กว้างขึ้น

นายเดซาเล็กยังกล่าวว่า และยังจะสั่งปิดเรือนจำเมเคลาวีอันอื้อฉาวและเปลี่ยนมันเป็นพิพิธภัณฑ์

ด้านนายอาโวล อัลโล นักวิเคราะห์การเมืองชาวเอธิโอเปียจากมหาวิทยาลัยคิลล์ของอังกฤษกล่าวว่า เป็นสิ่งที่พรรครัฐบาลเพิ่งตระหนักได้ว่ามันจะนำไปสู่สังคมที่เปิดกว้างและเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น พวกเขาตระหนักได้ว่าภูมิทัศน์ทางการเมืองภายใต้เท้าพวกเขากำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและพวกเขาต้องตอบสนองความต้องการของประชาชนหากยังอยากจะอยู่รอดในอำนาจต่อ พวกเขาไม่สามารถปกครองประเทศได้ในแบบที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 25 ปีก่อนแล้ว แต่ก็ยังไม่ชัดว่าพวกเขาจะยอมรับสิ่งเหล่านี้ยังไง อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้จริงๆเพราะรัฐบาลนั้นเก็บความลับและมันขึ้นอยู่ว่าจะนิยามยังไงว่าคนเหล่านี้คือนักโทษทางการเมือง

ขณะที่ นายฟิสเซฮา เทเคิล นักวิจัยชาวเอธิโอเปียของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้กล่าวยินดีกับแถลงล่าสุดเพราะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่นั้นยังมีอีกหลายอย่าง เพราะคุกเมเคลาวี ไม่ใช่สถานที่แห่งเดียวที่มีการทรมานและทารุณกรรม และรัฐบาลยังไม่ได้กล่าวอะไรถึงการเปิดพื้นที่ประชาสังคม พื้นที่ทางการเมืองและการเปิดเผยผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของผู้ประท้วงจำนวนมาก

ก่อนหน้านี้ นายเดซาเล็ก บริหารประเทศแบบอำนาจนิยมและต่อสู้ปราบปรามผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐที่กระจายตัวทั่วประเทศมากว่า 2 ปี ทำให้มีจำนวนผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมถึง 1 หมื่นคนในช่วงนั้น แต่นักเคลื่่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า มีนักโทษการเมืองหลายพันคน รวมถึงผู้นำฝ่ายค้านที่มีชื่อถูกคุมขัง

ที่มา : Financial Times