วันนี้ (22 ธ.ค.) นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊ก วิจารณ์สิทธิมนุษยชนในยุค คสช. โดยเล่าว่า “สิทธิมนุษยชนแบบ คสช.” วันนี้ผมเดินทางมาให้กำลังใจพี่อ๋อย หรือคุณจาตุรนต์ ฉายแสง ที่ศาลทหารกรุงเทพ หลังการยึดอำนาจพี่อ๋อยได้สร้างสถิติขึ้นหลายอย่าง ตั้งแต่ เป็นคนแรกที่แสดงอารยะขัดขืนจนถูกกล่าวหาว่าขัดคำสั่ง คสช. ที่ให้มารายงานตัว จากนั้นถูก คสช. ยกกำลังมาควบคุมตัวที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ถูกขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ถูกอายัดบัญชี ถูกเพิกถอนหนังสือเดินทาง และเป็นพลเรือนที่ต้องขึ้นศาลทหาร ส่วนผมก็เป็นจำเลยที่ศาลนี้เช่นกันจากข้อหาขัดคำสั่ง คสช. ที่ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง ยังดีที่เราได้คุณนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย มาเป็นทนายให้โดยไม่ต้องจ่ายเงิน

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 ครม. เพิ่งมีมติให้สิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ แต่ คสช. และรัฐบาลก็ยังคงละเมิดเสรีภาพขั้นพื้นฐานของคนไทยแบบรายวัน เช่น ใช้กฎหมายความมั่นคงและกฎหมายคอมพิวเตอร์จัดการกับผู้เห็นต่าง หรือเอาพลเรือนขึ้นศาลทหารซึ่งขัดกับข้อ 10 ของปฏิญญาสากลฯ ได้แก่ คดีของไผ่ ดาวดิน คดีพี่อ๋อยและคดีที่ผมเป็นจำเลย เป็นต้น เพราะศาลทหารมิได้เป็นไปตามหลักพื้นฐานความเป็นธรรมของตุลาการ (Basic Principles on the Independence of the Judiciary) ซึ่งรับรองโดยที่ประชุมใหญ่ของสมัชชาแห่งสหประชาชาติ เมื่อปี ค.ศ. 1985 ที่แย่คือทุกคดีล้วนเกิดขึ้นจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนของ คสช. ทั้งสิ้น โดยกำหนดความผิดและโทษขึ้นตามอำเภอใจ เช่น การไม่มารายงานตัว การชุมนุมหรือเคลื่อนไหวทางการเมือง จากนั้นตั้งข้อหา ตีความตามใจชอบแล้วเอาคนที่ต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิของความเป็นคนมาขึ้นศาลทหาร อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ยังกล้าออกไปโกหกประชาคมโลกและคนไทยด้วยการออกมติ ครม. ให้สิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ ช่างย้อนแย้งจนไม่น่าเชื่อว่าคนสติปกติจะทำได้