นายกฯ มั่นใจสถานภาพการเงินการคลังแข็งแกร่ง แม้มีปัญหา ศก.ในอนาคต

“นายกฯ” มั่นใจสถานภาพการเงินการคลังแข็งแกร่ง แม้มีปัญหา ศก.ในอนาคต หลังประกาศเดินหน้ากระเป๋าเงินดิจิทัลเดือน ก.พ. 67 บอกค่าเงินบาทอ่อนตัวไม่ได้มีแต่ผลเสีย มองเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยว กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ ยันไม่เข้าไปแทรกแซง

เมื่อเวลา 11.45 น.วันที่ 3 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาลภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีประกาศว่านโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลจะเดินหน้าได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ว่า ได้มีการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกไว้แล้วโดยเมื่อวานนี้ ได้หารือกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ถึงการประเมินเศรษฐกิจในระยะกลางและระยะยาวว่าหากนโยบายออกไปแล้วจะเป็นอย่างไร ภาพที่เครดิตเรตติ้งเอเจนซี่ ประชาชน และนักลงทุนต่างประเทศอยากเห็นเป็นอย่างไร ซึ่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้ให้คำแนะนำและแนวทางมา ว่ารัฐบาลควรทำอย่างไรซึ่งเราก็น้อมรับ

นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งจะน้อมรับคำแนะนำไปพิจารณาและคงจะมีการพูดคุยกันต่อ

นายกรัฐมนตรียังให้ความมั่นใจว่าหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินทางเศรษฐกิจขึ้นมา สถานภาพการเงินการคลังของประเทศจะยังแข็งแกร่งแน่นอน ส่วนรายละเอียดเรื่องแหล่งเงินขอให้รอฝ่ายที่ดูแลชี้แจง

ส่วนกรณีค่าเงินบาทอ่อนตัวในขณะนี้ นายกรัฐฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวัง ยืนยัน จะไม่เข้าไปก้าวก่าย หรือแทรกแซง ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด การที่เงินบาทอ่อนค่าไม่ได้เป็นเสียทั้งหมด แต่เป็นผลดีกับการส่งออก ซึ่งมากถึง 50% ของจีดีพี รวมถึงการท่องเที่ยวที่มากถึง 20% ของจีดีพี ซึ่งจะได้อานิสงส์จากเรื่องนี้ด้วย แต่ทั้งนี้ต้องดูให้เหมาะสม ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ดูและติดตามสถานการณ์อยู่แล้ว

ส่วนเรื่องน้ำมันที่จะต้องนำเข้านั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็เป็นธรรมดา เพราะประเทศไทยนำเข้าน้ำมันเยอะ จึงต้องใช้พลังงานทดแทน และใช้แผนระยะยาวแก้ไขปัญหาแหล่งพลังงานที่ยังมีปัญหาอยู่