“พาณิชย์”ปลื้มส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง พ.ย.ทำสถิติสูงสุดรอบ 58 เดือน มั่นใจทั้งปีโต 10% 11 เดือนเกินดุลการค้า 1.4 หมื่นล้านดอลล์

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนพฤศจิกายน 2560 มีมูลค่า 21,435 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 13.36% นับว่าขยายตัวสูงสุดในรอบ 58 เดือน และขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 เมื่อหักสินค้าที่เกี่ยวเนื่องน้ำมันและทองคำออก ยังขยายตัว 15.3% สะท้อนว่าเกิดจากการส่งออกที่มาจากความต้องการแท้จริง (เรียล เซ็กเตอร์) เนื่องจากการฟื้นตัวของการค้าโลก ทำให้ความต้องการสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับการส่งออกขยายตัวได้ดีในทุกตลาดสำคัญ และการส่งออกรายสินค้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 ที่ 19.2% โดยเฉพาะจากข้าว และไก่สดแช่แข็งและแปรรูป ผักผลไม้สดแช่แข็งกระป๋องและแปรรูป ยางพารา และน้ำตาลทราย และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ที่ 13.3 % จากสินค้าสำคัญ เช่นผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ

นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า ทำให้การส่งออก 11 เดือนแรก (มกราคม-พฤศจิกายน) ปี 2560 มีมูลค่า 216,953 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 10% นับว่าขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี ขณะที่การนำเข้าเดือนพฤศจิกายน 2560 มีมูลค่า 19,671 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 13.71% ทำให้เกินดุลการค้า 1,763 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนนำเข้ารวม 11 เดือนแรกปีนี้ มีมูลค่า 202,744 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้เกินดุลการค้า 14,208 ล้านเหรียญสหรัฐ

“แนวโน้มการส่งออกของไทยทั้งปี 2560 คาดว่าจะขยายตัวได้ในระดับสูง และมีมูลค่าการส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คาดว่าเฉพาะในเดือนธันวาคมปีนี้จะส่งออกได้ประมาณ 19,973 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากเดือนเดียวกันปีก่อนที่มีมูลค่า 18,173 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้อัตราการขยายตัวทั้งปีนี้ถึง 10% แน่นอน หรือมีมูลค่า 235,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แง่มูลค่านับว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี”

นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจ และการค้าโลกฟื้นตัวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลไปถึงอัตราการเติบโตการส่งออกในปี 2561 ที่คาดว่าจะมีการขยายตัวไม่ต่ำกว่า 6.5% หรือจะต้องส่งออกต่อเดือนเฉลี่ยให้ได้ 20,833 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือทั้งปี 2561 คาดว่าจะส่งออกได้มูลค่ารวม 250,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากปัจจัยบวกราคาสินค้าเกษตรและสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 33-35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ประกอบกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมศักยภาพที่เป็นเป้าหมายของไทย จะส่งผลให้มีผู้ผลิตรายใหม่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย และมีผู้ส่งออกไทยรายใหม่เข้าสู่ตลาดมากขึ้นผลักดันให้การส่งออกของไทยมีการขยายตัว

นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของนโยบายทางการค้าของประเทศคู่ค้าหลัก เช่น การปรับขึ้นหรือลดภาษีเงินได้นิติบุคคลของสหรัฐอเมริกา ส่งผลทำให้เกิดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศที่อาจจะเกิดขึ้นเป็นระยะตลอดปี

นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า สำหรับแผนการวางยุทธศาสตร์การค้าในปีหน้า เตรียมจัดวางกลุ่มสินค้าที่เป็นโอกาสธุรกิจ ที่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ (นิว เอสเคิร์ฟ) ของไทย จะต้องจัดทำแผนตลาดให้ชัดเจน เพื่อให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ และทูตพาณิชย์เข้าใจเทรนด์ความต้องการสินค้าโลก เพื่อเดินทางไปเจรจากับผู้นำเข้าในตลาดต่างประเทศ เพื่อให้มีตลาดใหม่รองรับอุตสาหกรรมสินค้าใหม่ของไทยด้วย