ศิโรตม์ ชี้ โพลมติชนxเดลินิวส์ คือ ‘เสียงสวรรค์’ เตือนรัฐบาล ว่าประชาชนต้องการอะไร?

ศิโรตม์ ชี้ โพลมติชนxเดลินิวส์ คือ ‘เสียงสวรรค์’ เตือนรบ.ประชาชนต้องการอะไร?

เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน)มีการจัดเสวนา โพลมติชน-เดลินิวส์ หัวข้อ “รัฐบาลเศรษฐา ควรแก้ปัญหาอะไร ?” โดยมีนายปราปต์ บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายเทคโนโลยีและดิจิทัลมีเดีย บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นายปารเมศ เหตระกูล กรรมการบริหารหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และเดลินิวส์ออนไลน์ ผศ.อัครพงษ์ ค่ำคูณ อดีตคณบดีวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ คอลัมนิสต์ มติชนสุดสัปดาห์ ร่วมเสวนา ขณะที่ศ.ดร.อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์ ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมเสวนาผ่านระบบซูม

นายศิโรตม์ กล่าวถึงประเด็นที่รัฐบาลจะได้ประโยชน์อะไรจากการทำโพลสำรวจในครั้งนี้ ว่า คิดว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย (พท.) ถูกสังคมวิจารณ์เยอะว่าเขาตระบัดสัตย์ ซึ่งคำว่าตระบัดสัตย์ เป็นคำที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ไม่อยากได้ยิน ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เองก็หงุดหงิดแล้ว เพียงแต่สังคมรู้สึกกับเขาแบบนั้น และคิดว่าหากมองในแง่ให้ความเป็นธรรม คือ บางทีการเป็นรัฐบาลมันไม่ง่ายที่จะทำตามนโยบายต่าง ๆ ที่หาเสียงเอาไว้เพราะมีปัญหาในเรื่องต่าง ๆ อาทิ เรื่องกฎหมาย เรื่องงบประมาณ เรื่องคนหลายอย่างเยอะไปหมด ซึ่ง ณ เวลานี้คนระแวงว่าเรื่องต่าง ๆ ที่รัฐบาลไม่ทำตามที่หาเสียงซึ่งเป็นปัญหาเรื่องความตั้งใจเบี้ยว

“ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ประชาชนเชื่อว่ารัฐบาลไม่ทำตามที่หาเสียง เพราะความตั้งใจเบี้ยว ขนาดความตั้งใจเบี้ยวเราในชีวิตประจำวัน นัดไปกินข้าวแล้วเบี้ยวเรายังโกรธ เป็นรัฐบาลแล้วเบี้ยวเรายิ่งโกรธ ฉะนั้น ณ เวลานี้ความระแวงของคนมีว่ารัฐบาลตั้งใจเบี้ยวในการทำเรื่องต่าง ๆ เช่น พูดถึงเรื่องการแก้ 112 บอกว่าผมไม่เคยพูด ปฏิรูปกองทัพไม่เคยพูด ยกเลิกเกณฑ์ทหารแปลว่าอะไร หมายความว่าอะไร มันเกิดความรู้สึกแบบนี้ว่ารัฐบาลจงใจเบี้ยว” นายศิโรตม์ กล่าว

นายศิโรตม์ กล่าวว่า โพลสำรวจนี้จะเป็นสิ่งที่หากรัฐบาลอาจมีความอยากทำอะไรบางเรื่องแต่ติดขัดด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ เช่นกฎหมาย พรรคร่วมขัดขวาง ตัวสังคมไม่เข้าใจ กลัวคนอื่นที่รับบาลเกรงใจเขาหงุดหงิด รัฐบาลจะได้เห็นว่าสิ่งที่สังคมคาดหวังรัฐบาลจะทำเรื่องอะไรทั้งในแง่การเมืองและในแง่ปัญหาสังคม แล้วจะได้เอาเรื่องเหล่านี้ไปบอกคนที่รัฐบาลอาจจะต้องเกรงใจหรืออุปสรรคต่าง ๆ ซึ่งสกัดไม่ให้ทำเรื่องที่ซึ่งลึก ๆ แล้วอาจจะอยากทำ รัฐบาลจะได้ยกตรงนี้เหมือนกับเป็นน้ำมัน เป็นฐานอ้างอิงว่านี่คือสิ่งที่สังคมต้องการ ฉะนั้นถ้ามีอุปสรรคในการไม่ให้ทำเรื่องที่รัฐบาลอยากทำตามที่หาเสียง เช่น ข้าราชการอุปสรรคบอกคุณดูโพลนี้สิ ประชาชนเขาอยากให้เราแก้ปัญหานี้นะ ถ้าใครในรัฐบาลที่เข้าใจว่าประชาชนต้องการอะไร และประชาชนอยากเห็นรัฐบาลแก้ปัญหาอะไร แล้วอาจจะติดขัดเช่น พรรคร่วมไม่เข้าใจ มีคนอื่นต้องเกรงใจเยอะ ข้าราชการไม่เอาด้วย กฎหมายเป็นอุปสรรค จะได้เอาอันนี้ไปเป็นกลไกในการบอกว่านี่แหละคือเรื่องที่เราต้องทำเพราะประชาชนเขาคาดหวังแบบนี้

“ถ้าติดขัดเรื่องเงินรัฐมนตรีคลังไปหาตังค์ ถ้าติดขัดเรื่องเกรงใจคนอื่นบอกคนที่รับบาลเกรงใจว่าท่านครับประชาชนต้องการ เป็นกลไกสำหรับรัฐบาลในการทำเรื่องที่รัฐบาลควรทำ เพื่อที่ประชาชนจะได้ไม่ระแวงว่ารัฐบาลมีความตั้งใจจะเบี้ยว ตอนนี้หลายเรื่องที่รัฐบาลไม่ทำมีเยอะ แล้วคนมองว่ารับบาลตั้งใจเบี้ยว ส่วนรัฐบาลผมคิดว่าเขาก็จะบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจเบี้ยวแต่โลกมันโหดร้าย มันมีเงื่อนไขหลายอย่าง ฉะนั้นโพลนี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยรัฐบาลในการบอกว่าในเงื่อนไขต่าง ๆ เสียงประชาชน คุณจะฟังใคร” นายศิโรตม์ กล่าว

เมื่อถามว่าหากมองมุมกลับรัฐบาลได้ผลดีอะไรจะการทำโพลสำรวจในครั้งนี้ นายศิโรตม์ กล่าวว่า โพลนี้มีฟังก์ชั่นอีกอย่างหนึ่ง คือ ทำให้รัฐบาลกลัวคนที่รัฐบาลต้องกลัวมากที่สุด คือ กลัวประชาชน บางทีคนเป็นรัฐบาลจะห่างกับประชาชนเพราะเขาไม่ได้ลงเลือกตั้งแล้ว

“ตอนหาเสียงก็ต้องลงเลือกตั้งเพราะฉะนั้นก็ต้องคิดว่าพูดแบบไหนประชาชนชอบไม่ชอบ เช่น ยกเลิกเกณฑ์ทหาร พูดแล้วประชาชนชอบปรบมือ แต่พอเลือกตั้งจบหีบเลือกตั้งปิด ยกเลิกเกณฑ์หทารแปลว่าอะไรอธิบายมาซิ บรรยากาศเปลี่ยนไปเพราะไม่ต้องเจอประชาชน” นายศิโรตม์ กล่าว

นายศิโรตม์ กล่าวว่า โพลนี้จะเตือนรัฐบาลว่าเวลาคุณลืมไปว่าประชาชนคาดหวังอะไร คุณลืมกลัวประชาชน ผลของโพล คือ การเตือนรัฐบาลว่าในเรื่องต่าง ๆ ที่คุณเห็นว่าเป็นอุปสรรคในการทำงานไม่ว่าจะเป็น เรื่องกฎหมาย เรื่องพรรคร่วม เรื่องความเกรงใจคนอื่น สิ่งที่รัฐบาลต้องไม่ลืมคือ คนที่คุณต้องเกรงใจมากที่สุดคือประชาชน

“ตอนนี้เขาเงียบอยู่นะ หลังเลือกตั้งบ่นกันเยอะหลายเรื่องยิ่งตั้งรัฐบาล แต่สิ่งที่จะบอกรัฐบาลว่า รัฐบาลอย่าลืมนะ คุณต้องเกรงใจประชาชน เพราะในที่สุดแล้วการกลับมามีอำนาจของคุณ ประชาชน คือ เสียงสวรรค์ ยังไงคุณก็ต้องเลือกตั้ง คุณจะเปลี่ยนกติกา คุรจะบิดเบี้ยวกติกายังไงคุรต้องกลับไปสู่สนามเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นโพลนี้คือโพลของเสียงสวรรค์ที่กำลังจะเข้าทำเนียบว่า คุณจะกลัวอะไรก็แล้วแต่ แต่คุณต้องไม่ลืมว่าสิ่งที่คุณต้องกลัวที่สุด คือ ประชาชน” นายศิโรตม์ กล่าว

สำหรับกิจกรรมการทำ “โพลมติชน X เดลินิวส์ : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร?” ครั้งนี้ เป็นการโหวตผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มของสื่อเครือมติชน และเดลินิวส์ โดยเปิดโหวตเริ่มตั้งแต่วันที่ 1–31 ต.ค.66