วันที่ 10 ธันวาคม 2560 เมื่อเวลา 17.30 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนินกลาง กลุ่มประชาชน นักกิจกรรมและนักศึกษา ร่วมจัดงาน “คิดถึงประชาธิปไตย” เพื่อชวนทุกคนที่คิดถึงระบอบประชาธิปไตย ได้ร่วมแสดงพลัง คิดถึงและเรียกร้องทวงคืนประชาธิปไตยในวันรัฐธรรมนูญของปีที่ 3 ในรัฐบาล คสช.

โดยกลุ่มประชาชน นักศึกษาและนักกิจกรรมกว่า 50 คน ได้รวมตัวกันที่ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ก่อนเดินขบวนออกจากประตูท่าพระอาทิตย์ ออกสู่ถนนราชดำเนินมุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารนอกเครื่องแบบเดินติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบโดยรอบพื้นที่กว่า 50 นายประจำจุด ซึ่งมาจาก สน.ชนะสงคราม สน.สำราญราษฎร์ และบก.น.6-9 เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในช่วงจัดกิจกรรม

ก่อนหน้านี้ ผู้ประสานงานกิจกรรมได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของสน.สำราญราษฎร์ ตามที่เจ้าหน้าที่ได้มีหนังสือแจ้งเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา เพื่อชี้แจงรายละเอียดและสาระสำคัญของการจัดกิจกรรมเพื่อพิจารณาอนุญาตตามบทบัญญัติในพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ ซึ่งในที่สุดได้รับอนุญาตจัดงานดังกล่าวได้ อย่างไรก็ดี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา บริเวณรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางรั้วเหล็กกั้นพื้นที่รอบอนุสาวรีย์ไว้

ต่อมาเมื่อเวลา 17.42 น. กลุ่มประชาชนได้เดินมาถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และเข้าเปิดรั้วเหล็กกั้นเพื่อให้ประชาชนได้เข้าพื้นที่ภายในบริเวณฐานรัฐธรรมนูญ ก่อนที่ร่วมกันพูดคุย ถ่ายรูปทั่วบริเวณอนุสาวรีย์ และตามด้วยกิจกรรมอ่านบทกวีโดยนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ หรือพ่อน้องเฌอ รำลึกประชาธิปไตย

ไม่เพียงเท่านี้ กิจกรรมดังกล่าวยังมีกล่องกระดาษสีแดง ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ร่วมตอบคำถาม 6 ข้อ ซึ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยคำถามมีดังนี้

1. ท่านคิดว่า “น้องเกี่ยวก้อย” สามารถสร้างความปรองดองได้จริงหรือไม่? หากอยากให้เกิดความปรองดอง ควรมีแนวทางอย่างไร?
2. สิ่งที่ คสช. และรัฐบาลนี้ได้ดำเนินการไปในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ประชาชนมองเห็นอนาคตที่ดีของประเทศชาติบ้างหรือไม่
3. รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ทำลายประชาธิปไตย ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพ มีธรรมาภิบาล และมีการพัฒนาประเทศที่มีความต่อเนื่อง ชัดเจนเพียงพอหรือไม่?
4. ท่านคิดเห็นอย่างไรกัยรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้ ว่าจะนำประเทศไปสู่ประชาธิปไตยที่ประชาชนมีสิทธิมีเสียงที่แท้จริงได้หรือไม่?
5. ประชาชนสามารถตรวจสอบการทุจริต คอรัปชั่น ของรัฐบาลใดได้มากกว่ากัน ระหว่างรัฐบาลพลเรือนกับรัฐบาลทหาร เพราะเหตุใด?
6. ตลอดระยะเวลา 3 ปีกว่าที่ผ่านมา เราถูกปกครองในระบอบเผด็จการทหาร มาวันนี้ ท่าน #คิดถึงประชาธิปไตย หรือไม่ เพราะเหตุใด?

นางสาวณัฏฐา มหัทธนา ผู้ประสานงานกิจกรรมคิดถึงประชาธิปไตย กล่าวว่า ประเด็นปัญหาการละเมิดสิทธิทางการเมืองไม่ใช่เรื่องยากจะเข้าใจ สังคมจะเข้าใจได้เสมอเมื่อมีความต้องการจะรับรู้ แต่ในช่วงนี้ตัวเร่งปฏิกิริยาไม่ใช่นักเคลื่อนไหว แต่กลับเป็นรัฐบาลทหารเองที่ลุแก่อำนาจจนประชาชนทั่วไปเริ่มหันมามองว่าเกิดอะไรขึ้น และเริ่มมีความตื่นตัวมากขึ้นที่จะเรียกร้องสิทธิ ดังที่เห็นได้ส่วนหนึ่งจากภาพที่เกิดขึ้นในวันนี้ ดังนั้นงานในวันนี้จึงเหมือนเป็นช่องทางที่ประชาชนได้แสดงออก ตอบสนองต่อสิ่งที่เข้าใจแล้วว่าการอยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการมาตลอดเกือบสี่ปีนั้นเป็นอย่างไร

ในส่วนคำถาม 6 ข้อที่เผยแพร่นี้ นางสาวณัฎฐากล่าวว่า คนที่ควรตอบคำถาม 6 ข้อนี้ คือประชาชนทั่วไปที่อยากสื่อสารความรู้สึกที่แท้จริงต่อรัฐบาล เป็นความรู้สึกที่รัฐบาลอาจไม่มีโอกาสได้ยินได้ฟังผ่านช่องทางของตัวเอง หรือหลีกเลี่ยงมาตลอดที่จะรับฟัง

หลังจากนั้นในเวลา 18.20 น. นักกิจกรรมและประชาชน ได้ร่วมกันจุดเทียนและเดินเวียนเทียนไปทางซ้าย 3 รอบ พร้อมกับร้องเพลงที่เกี่ยวกับการต่อสู่้เรียกร้องอาทิ แสงดาวแห่งศรัทธา บทเพลงถึงเจ้าผีเสื้อ เป็นต้น จนมาร่วมกันวางเทียนและดอกกุหลาบหน้าหอฐานรัฐธรรมนูญ เป็นอันเสร็จสิ้นกิจกรรม

ทั้งนี้ ตลอดการทำกิจกรรมของประชาชน มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบทั้งทหารและตำรวจ ถ่ายวิดีโอและถ่ายรูปผู้ร่วมกิจกรรมชนิดเฟรมต่อเฟรม แม้แต่ตอนที่ผู้ร่วมกิจกรรมสัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ยังมีเจ้าหน้าที่ยืนประกบพร้อมอัดวิดีโอตลอดการสัมภาษณ์ด้วย

(แก้ไขเพิ่มเติม เมื่อเวลา 23.10 น.)