เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยถึงการนำใบสั่งรูปแบบใหม่ที่มีบาร์โค้ด(PTM)มาบังคับใช้นั้น จากการที่ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงใบสั่งรูปมีบาร์โค้ดรูปแบบใหม่ ที่จะเริ่มใช้ 17 ธันวาคม นี้ ว่า ขอเรียนว่าในระยะแรกจะนำมาใช้ใน 4 พื้นที่ก่อน ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (กรุงเทพมหานคร ) , กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 (สมุทรปราการ , นนทบุรี , ปทุมธานี , พระนครศรีอยุธยา , สระบุรี , ลพบุรี , อ่างทอง , สิงห์บุรี , ชัยนาท) , กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ( ชลบุรี , ฉะเชิงเทรา , ปราจีนบุรี , ระยอง , จันทบุรี , ตราด , นครนายก , สระแก้ว ) , กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7 ( นครปฐม , กาญจนบุรี , สุพรรณบุรี , ราชบุรี , เพชรบุรี , ประจวบคีรีขันธ์ , สมุทรสาคร , สมุทรสงคราม ) โดยในระยะแรกนี้จะเป็นการบังคับใช้ เฉพาะกรณีที่เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่(ใบสั่ง) แปะไว้ที่หน้ารถ หรือในกรณีที่ไม่ได้มีการเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไว้เป็นการชั่วคราว แต่ได้ออกใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่(ใบสั่ง)ให้แก่ผู้ขับขี่ไว้ เช่น กรณีจอดรถกีดขวางการจราจร จอดรถในที่ห้ามจอด เป็นต้น ไม่ได้ครอบคลุมในกรณีที่เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ตั้งจุดตรวจ กวดขันวินัยจราจร แล้วตรวจพบการกระทำความผิด ได้เรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไว้เป็นการชั่วคราว แล้วออกใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่ให้แก่ผู้ขับขี่ไว้ ที่ต้องไปชำระค่าปรับที่โรงพักหรือสถานที่ที่กำหนดไว้ภายใน 7 วัน ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 140

รองโฆษก ตร. กล่าวต่อว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกในการชำระค่าปรับให้แก่ผู้ได้รับใบสั่งที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 หรือ พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ในกรณีที่ไม่ได้มีการเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไว้เป็นการชั่วคราว ไม่ต้องเดินทางไปโรงพักหรือสถานีตำรวจ และสามารถตรวจสอบย้อนหลังถึงพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใด ที่เป็นผู้ออกใบสั่งว่าได้ออกใบสั่งแก่ผู้ใด เมื่อใด และในข้อหาความผิดใด โดยสามารถชำระผ่านธนาคารกรุงไทย หรือตู้เอทีเอ็ม หรือ Internet Banking หรือ Counter Service หรือ ไปรษณีย์ โดยคิดค่าธรรมเนียมครั้งละ 20 บาท หากผู้ขับขี่ไม่ชำระภายในกำหนด จะออกใบแจ้งเตือนให้มาชำระภายใน 30 วัน และจะส่งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งเพื่อขอดำเนินการงดออกเครื่องหมายแสดงภาษี จนกว่าจะชำระค่าปรับเสร็จสิ้น ตาม คำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ 14/2560 เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก สำหรับในพื้นที่ต่างๆที่ยังไม่ได้บังคับใช้นั้น จะเริ่มในวันที่ 31 มกราคม 2561