เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สวมใส่นาฬิกา “ริชาร์ด มิลด์” RM 029 และแหวนทองคำขาวหัวเพชร มูลค่าหลายล้านบาท ในระหว่างถ่ายภาพหมู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่า ทรัพย์สินดังกล่าวไม่ปรากฏในเอกสารบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ที่รายงานกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขณะเข้ารับตำแหน่งทางการเมืองเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2557 ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจขัดต่อ พรบ.ป.ป.ช.2542 และแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 32 มาตรา 33 และมาตรา 34 ประกอบมาตรา 66 โดย ป.ป.ช. จะต้องดำเนินการไต่สวนและยื่นฟ้องเป็นคดีฐานจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน หรือจงใจยื่นบัญชีฯด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริง และเสนอศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย

“นอกจากนั้นกรณีดังกล่าวอาจเข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ ตามมาตรา 66 เนื่องจากตามเอกสารบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ที่รายงานไว้เมื่อเข้ารับตำแหน่งทางการเมือง นั้นพบว่ามีบัญชีเงินฝากในธนาคารกว่า 53 ล้านบาท รวมทรัพย์สินอื่น แล้วมีมูลค่ามากกว่า 87 ล้านบาท ซึ่งไม่ปรากฏที่มาของเงินในบัญชีธนาคารและทรัพย์สินอื่น ๆ และหากจะประมาณการจากการรับราชการทหารมาประมาณ 40 ปีและเป็นนักการเมือง 2 สมัย โดยไม่ได้มีธุรกิจใดๆ ก็ไม่น่าที่จะมีรายได้มากมายถึงขนาดนี้ นอกจากนั้นหากพลเอกประวิตรจะหลอกตัวเองด้วยการชี้แจงว่าทั้งนาฬิกาและแหวนเพชรเป็นของปลอมก็สามารถอ้างได้ แต่หลอกฟ้าดินไม่ได้ ” นายศรีสุวรรณกล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ สมาคมฯ จะยื่นเรื่องร้องถึง ป.ป.ช. ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 234(1)(3) ประกอบมาตรา 195 บัญญัติให้ทำการไต่สวนและหากพบความผิด ให้ดำเนินการตามกฎหมายสูงสุด เช่นเดียวกันกับหลายกรณีที่ ป.ป.ช.ได้วางบรรทัดฐานไว้แล้ว เช่น กรณีคดีซุกหุ้นนายทักษิณ ชินวัตร คดีเงินกู้ 45 ล้านบาท ของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ และกรณีนี้จะเป็นบทพิสูจน์อำนาจหน้าที่และการกระทำของ ป.ป.ช.ชุดนี้ว่าจะปฏิบัติหน้าที่ได้ดีในยุค “ปฏิรูป” ได้หรือไม่ โดยสมาคมฯจะไปยื่นคำร้องในวันที่ 7 ธันวาคม นี้ เวลา 10.30 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ถ.สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี