ประยุทธ์ ค้อนขวับทันที หลังสื่อถาม เก็บของหรือยัง?

นับถึงวันนี้ก็เป็นเวลามากกว่าครึ่งเดือนแล้ว นับแต่การเลือกตั้ง 14 พ.ค.  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรี และเป็นแคนดิเดตนายกฯจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งคว้าเก้าอี้เพียง 36 คน จาก 500 คน แต่พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังไม่ประกาศรับความพ่ายแพ้ หรือยินดีต่อพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง

“บิ๊กตู่” ค้อนขวับหลังสื่อซักเก็บของหรือยัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการแถลงข่าว เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ระหว่างเดินออกจากโพเดียมให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชนได้ถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ว่า ได้เก็บของบ้างหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ หันมามองค้อนผู้สื่อข่าวทันที แต่ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าวพร้อมเดินยิ้มๆขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที

ขออย่ามองอยู่ทำเนียบฯไร้งาน

เมื่อเวลา 12.05 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยกล่าว “สวัสดีนะครับสื่อมวลชนที่รักทุกท่าน ทั้งประชาชนที่รับฟังอยู่ทางบ้านด้วย การประชุม ครม.มีหลายเรื่องทั้งเศรษฐกิจและสังคม โดยภายหลังการแถลงผลการประชุมเสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ ถามกระเซ้าสื่อมวลชนว่ามีอะไรอีกไหม ไม่มีประเด็นข่าวไม่รู้จะส่งไปกองบก.อย่างไรใช่หรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของนักลงทุนต่างประเทศที่นายกฯเคยคุยไว้ก่อนหน้านี้ หลังการเลือกตั้งได้มีปฏิกิริยาอะไรกลับมาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาก็ห่วงกังวลอยู่เหมือนกัน มันจะออกมาในรูปไหนอย่างไร เพราะหลายอย่างก็มีคนออกมาพูดเยอะแยะไปหมด จะทำตรงโน้นตรงนี้ มันก็เกิดการต้องทบทวนอีกทีเหมือนกัน ตนก็เป็นกังวลเรื่องนี้ เพราะหลายๆอย่างมันกำลังดีอยู่ในขณะนี้ สิ่งที่รัฐบาลทำมาคือการแก้ปัญหาการลงทุนจากภายนอก เพราะภายในอยู่ในวงจรของเราอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องมีการพัฒนาทั้งภายในและเอาคนลงทุนจากต่างประเทศมาลงทุนในประเทศ จะได้เป็นการเพิ่มรายได้จีดีพีของเราขึ้นมา ถ้าเราไม่พูดถึงการลงทุนต่างประเทศหรือเอาเขาเข้ามาน้อยลงไปมันก็กลายเป็นน้ำหนักอยู่ตรงนี้ ก็จะเป็นภาระเหมือนกัน หลายท่านคงฟังแล้วที่เขาไปพบปะเยี่ยมเยียนกันอันนั้นเป็นสิ่งที่เขาคุยได้ เพราะไม่ใช่ส่วนราชการ

ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯจะมีส่วนช่วยทำให้เกิดความเชื่อมั่นอะไรขึ้นมาหรือไม่ในช่วงของการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่เกี่ยวข้องตรงนี้ ผมบอกตั้งหลายครั้งแล้วผมไม่เกี่ยวข้อง ผมทำหน้าที่ของผมคือการเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการให้ดีที่สุด อันนั้นเป็นเรื่องของทางการเมืองก็ว่ากันไปสิ”

เมื่อถามย้ำว่าการให้ความมั่นใจกับนักลงทุนในระหว่างที่ยังไม่ตั้งรัฐบาลใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใครจะเป็นรัฐบาลใหม่ก็ต้องให้ความสนใจตรงนี้ด้วย ถ้ามันเสียหายขึ้นมาก็พ้นหน้าที่ของตนไปแล้ว เพราะตนได้ทำไว้แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ฟังเกี่ยวกับเรื่องของดีลลับการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่รู้เรื่อง ไม่ฟังๆ ไม่เปิดโซเชียล ไม่เปิด” เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้ฟังไม่ได้ดูอะไรเลย รวมทั้งฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า ไม่ฟัง ไม่ดู จะดูทำไมล่ะ งานตนเยอะแยะไปไม่มีเวลาว่างที่จะไปทำอะไรเท่าไหร่หรอก ไม่ใช่ไม่มีงานนะ หลายคนบอกนายกฯไม่มีงาน วันนี้อยู่ที่ทำเนียบฯไปดูแฟ้มตนที่อยู่บนโต๊ะ ส่วนราชการก็ทำงานทุกหน่วย แฟ้มเอกสารมา 50-60 แฟ้มทุกวัน มาบอกตนไม่มีงานไม่มีราชการได้อย่างไร ไม่เข้าใจ ให้รู้ว่าการเป็นรัฐบาลเขาทำงานอะไรกันบ้าง ลงพื้นที่ออกเยี่ยมเยียนติดตามความก้าวหน้า ขณะเดียวกันต้องรันงานเอกสารให้จบด้วย ไม่เช่นนั้นไปไม่ได้สักอัน กระทรวงทุกกระทรวงมีรายงานเสนอมาให้พิจารณาตั้งเยอะแยะ เว้นแต่เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการใหม่ทำไม่ได้ตามกติกาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะทำอะไรก็ต้องขอเขา โครงการที่จะเริ่มต้นใหม่ไม่ได้

เมื่อถามว่าได้ติดตามความเคลื่อนไหวของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่เดินทางไปดูการแข่งขันฟุตบอลที่อังกฤษ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ทราบแต่เพียงว่าลาในตอนแรก ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน จริงๆแล้วเขาไปเกี่ยวกับเรื่องการประชุมของสาธารณสุขด้วย ก็คงแวะไปพักผ่อนของท่านก็แล้วแต่ มีสิทธิ์อยู่แล้วลาพักผ่อนได้ เมื่อถามว่านายกฯอยากให้สถานการณ์มันจบไปเร็วๆหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ถามประชาชนเอาแล้วกัน ถามตน ตนบอกไม่ได้ และบอกแล้วว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล เรื่องการพูดคุยเป็นเรื่องของเขา

เมื่อถามว่าที่พรรคก้าวไกลกับพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมกันจัดตั้งคณะเตรียมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลหรือ Transition team กับหน่วยราชการทำได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มันไม่ควร ไม่สมควร ข้าราชการยังทำงานอยู่กับข้าราชการปัจจุบัน วันหน้าทางรัฐบาลก็เตรียมข้อมูลต่างๆส่งมอบด้วย ตนสั่งการไปหลายครั้งและย้ำไปแล้วทุกกระทรวงต้องมีแผนงานโครงการที่ดำเนินการไปแล้วหรือที่ยังค้างอยู่ให้กับรัฐบาลใหม่รับทราบจะได้ไม่มีปัญหากัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้นายกฯรู้สึกเหมือนมีนายกฯซ้อนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้สึกๆๆๆ เมื่อถามว่ามองอย่างไรต่อการเดินสายของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เสมือนเป็นนายกรัฐมนตรีทั้งที่ยังไม่ได้รับการโหวตในสภา พล.อ.ประยุทธ์​กล่าวว่า “ไม่ได้มองครับ ผมไม่ได้มองและไม่ได้ไปสร้างความขัดแย้งกับใคร ผมบอกแล้วไงเข้าใจไหม กติกาประชาธิปไตยอย่างไรก็ว่ากันไป”

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นรมว.กลาโหม มีความเห็นอย่างไรต่อกรณีที่เอ็มโอยูของพรรคร่วมรัฐบาล ยกเลิกเรื่องการเกณฑ์ทหาร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ก็แล้วแต่ ทำได้ไม่ได้ก็แล้วแต่ท่าน ท่านได้เป็นก็ทำให้ได้ก็แล้วกันน้อ ก่อนเดินออกจากโพเดียม เมื่อถามอีกว่าเป็นห่วงสถานการณ์อะไรหรือไม่ในตอนนี้ และถามว่านายกฯยังสู้ใช่หรือไม่ และจะจับมือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สู้กับสถานการณ์ต่อหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด พร้อมเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที

เตือนก้าวไกลไม่สมควรเรียกหน่วยงานราชการมาให้ข้อมูล

พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณฺ์ โดยตอบคำถามสื่อมวลชนกรณีที่องค์กรต่างประเทศลงพื้นที่ใน3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากขึ้นว่า เรื่องดังกล่าวมีการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เขาดูอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ดูแลกันอยู่แล้ว ซึ่งความจริงมีการติดตามการทำงานในเรื่องเหล่านี้มาโดยตลอด เพราะเกรงว่าจะเกิดความขัดแย้งกับสิ่งที่ทำในปัจจุบันคือมีการแก้ปัญหากันในเรื่องของการศึกษา ด้านเศรษฐกิจ และสังคมต่างๆ ซึ่งก็มีการดำเนินการกันอยู่แล้ว การพูดคุยต่างๆเราก็มีคณะในการพูดคุย ซึ่งเรื่องเหล่านี้เราก็ทำความเข้าใจกันไป

“ซึ่งความจริงแล้วก็ต้องระมัดระวังให้มากที่สุด เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างอ่อนไหว เพราะฉะนั้นการที่จะไปแก้อะไรต่างๆโดยที่มีการเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดมันก็น่าจะยาก ซึ่งส่วนตัวคิดเช่นนั้น แต่ก็แล้วแต่ “พลอ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่ามีการเคลื่อนไหวที่จะขอพูดคุยโดยตรงกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่จาก ศอ.บต. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เมื่อสักครู่ได้มีการหารือกันว่าสามารถทำได้หรือเปล่า ซึ่งถ้าเป็นส่วนของราชการก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ถ้าเป็นส่วนราชการก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ ก็คงจะมีการพิจารณากันเองว่าควรหรือไม่ควร แต่ส่วนตัวคิดว่าในทางกฎหมายแล้ว เท่าที่หารือและมีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาก็ไม่น่าที่จะทำได้ การที่ยังไม่เป็นรัฐบาลแล้วจะไปเรียกสวนราชการคุยเอง แต่ถ้าเป็นหน่วยงานภายนอกไม่ใช่ส่วนราชการเขาทำได้หรือเปล่า

เมื่อถามว่านักลงทุนที่นายกรัฐมนตรี ได้เคยไปเจรจามา หลังการเลือกตั้งมีปฏิกิริยาอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาก็กังวลเหมือนกัน  ว่าจะออกมารูปแบบไหนอย่างไร มีหลายอย่างที่ออกมาพูดเยอะแยะไปหมดว่าจะทำตรงโน้นตรงนี้ ซึ่งก็ต้องทบทวนอีกที ตนก็กังวลในเรื่องนี้เพราะหลายๆ อย่าง รัฐบาลนี้ที่ทำมาคือการแก้ปัญหาจากการลงทุนภายนอก และการลงทุนภายในก็อยู่ในวงจรของเราอยู่แล้ว ดังนั้นการดึงนักลงทุนในต่างประเทศเข้ามาก็จะสามารถดึงรายได้เข้ามา ซึ่งหากต่างประเทศเข้ามาลงทุนน้อยเกินไป ก็จะเป็นภาระอยู่เหมือนกัน ที่เค้าไปพบปะเยี่ยมเยียนกันนั้นก็เป็นสิ่งที่เขาสามารถพูดคุยได้เพราะเขาไม่ใช่ส่วนราชการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคก้าวไกลตั้งทีมงานเพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เพื่อรับงานต่อจากรัฐบาล สามารถที่ตะขอข้อมูลกับส่วนราชการได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “มันไม่ควร มันไม่สมควร ส่วนราชการเขายังอยู่กับรัฐบาลปัจจุบัน  วันหน้าเขาก็เตรียมข้อมูลต่างๆส่งมอบ ซึ่งผมก็ย้ำไปหลายครั้งแล้ว “