เผยแพร่ |
---|
กรณีของ “แบมุส” กำลังเป็น “ด่าน” อย่างสำคัญในการตรวจสอบสถานะและการดำรงอยู่ของ
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด
ไม่ว่าจะมองจากด้านอันเป็น 1 โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ไม่ว่าจะมองจากด้านอันเป็น 1 อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
เพราะเป้าหมายของ 2 ตำแหน่งนี้ล้วนอยู่ที่การสร้างความเข้าใจและสร้างภาพอันดี
ไม่เพียงแต่ต่อ”ตัวเอง” หากแต่ต่อตัว”ผู้สัมพันธ์”
ตำแหน่งแรกสัมพันธ์กับ “นายกรัฐมนตรี” ตำแหน่งหลังสัมพันธ์กับ “รัฐบาล”
กรณี”แบมุส”จึงเป็น”เครื่องตรวจสอบ”อย่างสำคัญ
กล่าวสำหรับ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ถือได้ว่าเติบใหญ่มาด้วยการใช้ปาก ใช้คำพูด เป็นอาวุธ
ตั้งแต่ยังดำรงยศเป็น”พ.อ.”
ทำหน้าที่เป็นโฆษกศอฉ.ในสถานการณ์เมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553
ได้เสนอ”นวัตกรรม”ว่าด้วย”ผังล้มเจ้า”
สร้างความดี ความชอบ กระทั่งเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมกับครองยศเป็นพล.ท.
แสดงบทบาทในลักษณะอันเป็น”ปาก”แทนนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมาอย่างเอาการเอางาน
กระทั่งมาถึงกรณี”แบมุส”ในเดือนพฤศจิกายน 2560
ถามว่าบทบาทของ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ในกรณี”แบมุส” ดำเนินไปอย่างไร
เป็นการยุติหรือว่าสร้าง “ปัญหา”
หากสัมผัสจากปฏิกิริยาอันมาจากเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากภรรยาของ”แบมุส”คงได้ “คำตอบ”อันเด่นชัด
ขณะเดียวกัน ก็สะท้อนให้เห็นเครดิตและความน่าเชื่อถือในฐานะโฆษกและอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้เป็นอย่างดี
ก่อนพูดเราเป็น”นาย” แต่เมื่อพูด”คำพูด”ก็จะเป็นนาย