“ชวน”กรีด”พิธา”ปล่อยพรรคการเมืองคิดเอง อย่าก้าวก่ายให้โหวตนั่งนายกฯ

“ชวน”กรีด”พิธา”ปล่อยพรรคการเมืองคิดเอง อย่าก้าวก่ายให้โหวตนั่งนายกฯ ย้ำมีสติปัญญาคิดได้เอง จ่อหารือ”จุรินทร์”ประเมินผลเลือกตั้งหลังแพ้ยับ ยัน กก.บห.ชุดใหม่ ต้องผสมผสาน คนรุ่นเก่า -รุ่นกลาง-รุ่นใหม่ ช่วยพรรค

เมื่อวันที่ 16 พ.ค.เวลา 13.00 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงผลการเลือกตั้ง ที่พรรคประชาธิปัตย์แพ้ยับเยินว่า หากมีเวลาต้องคุยกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อประเมินผลการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง ส่วนที่ถามว่าได้บทเรียนอะไรนั้น ตนมองว่าพรรคฯมีประสบการณ์มา 77 ปี ไม่ใช่บทเรียน แต่คือประสบการณ์ที่ผู้บริหารพรรคชุดใหม่ต้องพิจารณาว่าที่ผ่านมามีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไรเพื่อแก้ปัญหาต่อไป และต้องเรียนรู้ทุกครั้ง

นายชวน กล่าวว่า การเลือกตั้งรอบนี้เราก็ต้องยอมรับและดูโดยภาพรวมแล้ว เสียงของพรรคฯลดลงมากกว่าที่เขาคาดหมายเยอะ ตนไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคฯแต่ก็พยายามตระเวณช่วยหาเสียงไปให้ได้ 77จังหวัด เพื่อหวังว่าจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเข้ามามาก เพราะดูจากผลสำรวจของนิด้าโพลแล้วคาดว่าเราจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ5คน แต่พอไปได้สักระยะหนึ่งประมาณ 40-50 จังหวัด นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคฯ ได้ขอร้องให้ตนกลับไปช่วยในภาคใต้

ต่อมานายจุรินทร์ ก็โทรมาให้ตนลงไปใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และทุกจังหวัดก็ขอให้ไปช่วย โดยนายบัญญัติได้บอกว่าสถานการณ์มันเปลี่ยนมีการใช้ระบบเงินรุนแรงมาก จึงขอให้ตนรีบกลับมา เพราะตนเป็นคนต่อต้านการซื้อเสียง จึงได้ใช้คำที่ว่า “ชาวตรังใครอย่ามุ่งหวังซื้อด้วยเงินตรา” ต้องเอามาใช้ใหม่ ในการรณรงค์การซื้อเสียง โดยนายจุรินทร์ก็คุยกับตนว่ามีระบบการยิงแล้ว แต่ก็เสียดายบัญชีรายชื่อเราได้ต่ำกว่าโพลที่คาดไว้ คือได้มาเพียง3คน

เมื่อถามว่าผลคะแนนของพรรคฯ ออกมาอย่างนี้ เป็นเพราะประชาชนอยากเปลี่ยนเอาคนรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นส.ส.หรือไม่ นายชวนกล่าวว่าตนคิดว่าส่วนหนึ่งเขาเบื่อของเก่าแน่นอน และอีกส่วนหนึ่งคือความรู้สึกกับรัฐบาล เวลาเราไปหาเสียงก็จะได้ยิน แต่เราไม่วิจารณ์ใครเขา เพราะประชาธิปัตย์ก็เป็นส่วนหนึ่งในรัฐบาล แต่ถ้าพูดความจริงผลงานของนายจุรินทร์ที่ทำเรื่องการเกษตร การประกันรายได้ ซึ่งต้องคอยดูต่อไปว่ารัฐบาลหน้าเขาจะทำอย่างไร เพราะในช่วงที่ผ่านมาการประกันรายได้สามารถทำให้เกษตรกร ชาวนาชาวไร่ ปาล์ม ข้าวโพด มีรายได้ที่แน่นอน ชาวบ้านได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ไม่ใช่ฝ่ายการเมืองโกง ไปแบบโครงการรับจำนำ ตนคิดว่าโครงการของเราเป็นสิ่งที่ชาวบ้านได้ แต่ชาวบ้านจะเห็นหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง เราก็ต้องยอมรับ

ต่อข้อถามว่าในการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ควรจะเป็นคนรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่เข้ามาบริหาร นายชวนกล่าวว่า การเมืองเป็นของคนทุกรุ่น เราไม่มาเลือกว่ารุ่นเก่า รุ่นใหม่ รุ่นกลาง แต่ละรุ่นเขาก็มีศักยภาพของเขา คนรุ่นเก่าเขาก็มีอดีตที่จะช่วยพรรค คนรุ่นใหม่ก็จะมีความคิด มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา ปัจจุบันก็เอามาเชื่อมต่อกัน พรรคประชาธิปัตย์จึงมีอดีต ปัจจุบัน และมีอนาคต

ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะที่นายชวนมีสิทธิ์โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เรียกร้องให้พรรคการเมืองต่างๆ ร่วมโหวตให้ตนเป็นนายกฯ นายชวนกล่าวว่า ตนคิดว่าอย่าไปก้าวก่ายคนอื่นเขาเลย แต่ละพรรคคิดอย่างไรก็ให้เขาคิดเอา และมีมติของเขาเอง ดังนั้นอย่าไปก้าวก่ายหรือลุกล้ำ ไม่ควรให้คนอื่นเขาคิดเหมือนตัวเอง แต่ละพรรคเขาคิดเองได้ และเขามีสติปัญญาที่จะคิดเองได้

เมื่อถามว่ามองบทบาทของนายพิธาอย่างไร นายชวนกล่าวว่า ยังไม่ได้ตั้งรัฐบาลเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่าในเสียงที่เขาชนะมา เขาก็ต้องให้ความเห็นเอง แต่เท่าที่ประเมินดูในเวลาที่เราออกไปหาเสียง จะพูดได้ว่าในท่ามกลางของการยิงด้วยเงิน พรรคกาวไกลไม่มีครหาเรื่องนี้ แต่เขาใช้เรื่องการสร้างกระแสในโซเชียลมีเดียในการหาเสียง