ทักษิณประกาศกลับไทย ก.ค.ปีนี้ เข้าสู่กระบวนการกม.-ภายใต้รัฐบาลรักษาการ

ทักษิณประกาศกลับไทย กรกฎาคมปีนี้ ก่อนถึงวันเกิด

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ประกาศขออนุญาตกลับไทย โดยตัดสินใจว่าจะกลับบ้านไปเลี้ยงหลานภายในเดือนกรกฎาคมนี้ก่อนจะถึงวันครบรอบวันเกิด เพราะเป็นเวลาเกือบ 17 ปีแล้วที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัวแล้วตนเองก็แก่แล้ว

“อนุญาตอีกครั้ง ผมตัดสินใจแล้วว่าจะกลับบ้านไปเลี้ยงหลานภายในเดือนกรกฎาคมนี้ก่อนวันเกิดผมครับ ขออนุญาตนะครับ เกือบ 17 ปีแล้วที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัว ผมก็แก่แล้วครับ”

ต่อมา นายทักษิณ ทวิตอีกว่า  “ไม่ต้องกังวลว่าผมจะเป็นภาระพรรคเพื่อไทย ผมจะเข้าสู่กระบวนการกฎหมายและวันที่ผมกลับยังเป็นช่วงรัฐบาลรักษาการของ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ ทั้งหมดคือการตัดสินใจของผมเองด้วยความรักผูกพันธ์กับครอบครัว/แผ่นดินเกิดและเจ้านายของเรา”

ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านบัญชีทวิตเตอร์ของเขา  เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม  ที่ผ่านมา  ว่า แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของเขา และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้คลอดบุตรชายชื่อ ธาษิณ

“หลานทั้ง 7 คน คลอดในขณะที่ผมต้องอยู่ต่างประเทศ ผมคงต้องขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลาน เพราะผมอายุจะ 74 ปี กรกฎานี้แล้ว พบกันเร็ว ๆ นี้ครับ ขออนุญาตนะครับ” ทักษิณ ระบุ

ทั้งนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เคยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์จะเดินทางกลับประเทศไทยและพร้อมรับโทษว่า เรื่องนี้ได้พูดคุยกันในครอบครัวมาตลอด หากเป็นการดำเนินคดีตามปกติไม่ใช่หลังการรัฐประหาร เชื่อว่าคงจะไม่เป็นเช่นนี้ หากกระบวนการยุติธรรม เป็นไปอย่างยุติธรรมก็จะเป็นเรื่องที่ดี ส่วนตัวเคารพการตัดสินใจของคุณพ่อ จะตัดสินใจอย่างไรก็เคารพการตัดสินใจของเขาอยู่แล้ว และเป็นกำลังใจให้ ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและต้องนำทัพสู้ศึกเลือกตั้ง

“การที่จะกลับมาหรืออะไรก็ตามไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย และบอกว่าจะไม่มีการทำอะไรทั้งสิ้น คุณพ่อพูดมาก่อนหน้านี้ตั้งหลายเดือนแล้ว และก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ มีความหวังตลอดอยากให้คุณพ่อกลับบ้าน อยากให้คุณตากลับมาเลี้ยงหลาน โดยเฉพาะหลังจากนี้ 2 เดือนก็จะคลอดแล้ว”นางสาวแพทองธารกล่าว

โดยเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา Nikkei Asia เผยแพร่สัมภาษณ์พิเศษ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ระหว่างการเดินทางไปที่กรุงโตเกียว โดยระบุว่า คาดหวังให้ฝ่ายค้านคือพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย

ทั้งนี้ อดีตนายกรัฐมนตรีไทยผู้ที่ถูกขับไล่โดยกองทัพในปี 2549 และลี้ภัยมาตั้งแต่ปี 2551 ยอมรับว่า เขาคาดหวังว่าประเทศไทยจะมีรัฐบาลผสมหลังการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 พฤษภาคม แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายค้านรายใหญ่ที่สุดและชนะเสียงข้างมากในสภาล่างก็ตาม

“ผมเชื่อว่าจะได้เป็นรัฐบาลผสมแน่นอน” ทักษิณกล่าว พร้อมระบุว่า มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ที่นั่งอย่างน้อย 250 ที่นั่งจากสภา 500 ที่นั่ง

ทักษิณยังบอกกับ Nikkei Asia ด้วยว่า เขาไม่ต้องการให้รัฐบาลใหม่ทืี่กำลังจะเกิดขึ้น ออกนิรโทษกรรมให้เขากลับบ้าน แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับการเลือกตั้งมามากเพียงใด เขาจะกลับประเทศไทยตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม แม้ว่าจะหมายถึงการต้องรับโทษจำคุกก็ตาม

“ผมคิดถึงการกลับบ้านตลอดเวลา แต่ผมไม่ต้องการให้รัฐบาลใหม่นิรโทษกรรมให้ผม” ทักษิณ กล่าว

Nikkei Asia รายงานเพิ่มเติมว่า ทักษิณปฏิเสธที่จะบอกว่าพรรคเพื่อไทยกำลังทำข้อตกลงกับพรรคการเมืองอื่นเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่หรือไม่

“ผมเป็นเพียงผู้ก่อตั้งพรรค ไม่ใช่สมาชิก ดังนั้นสิ่งที่ทำได้คือเฝ้าดูการเลือกตั้งจากระยะไกล” เขากล่าว

ทักษิณ ยังให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่น ประกาศว่าเขาพร้อมที่จะรับโทษจำคุกในไทยแลกกับการที่จะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับครอบครัว ไม่ว่าผลการเลือกตั้งทั่วไปในไทยที่กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ จะออกมาจะเป็นอย่างไรก็ตาม

ทักษิณซึ่งขณะนี้อยู่ในกรุงโตเกียวกล่าวว่า เขากำลังพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งอาจจะเป็นภายในปีนี้หลังการเลือกตั้ง และพร้อมที่จะรับโทษจำคุก โดยเขาหวังว่าจะยื่นอุทธรณ์ในบางคดี

“ตอนนี้ผมติกคุกใหญ่มา 16 ปีแล้ว เพราะพวกเขากีดกันไม่ให้ผมอยู่กับครอบครัว ผมทรมานมามากพอแล้ว ถ้าผมต้องไปทนทุกข์ในคุกเล็กอีกก็ไม่เป็นไร แม้มันไม่ใช่ราคาที่ผมจำเป็นจะต้องจ่าย แต่ผมยอมจ่ายเพราะผมอยากอยู่กับหลานๆ ผมควรใช้เวลาที่เหลือในชีวิตกับลูกๆ หลานๆ” ทักษิณกล่าว

ทักษิณกล่าวว่า เรื่องความปลอดภัยของเขาก็เป็นหนึ่งในประเด็นที่ต้องนำมาพิจารณา เพราะเขาเผชิญกับความพยายามในการลอบสังหารมาแล้วถึง 4 ครั้งเมื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ยืนยันว่าการออกกฎหมายนิรโทษกรรมไม่ใช่ทางเลือกเพื่อพาเขากลับบ้าน

“ผมบอกกับลูกสาวว่าอย่ายอมให้พรรคเพื่อไทยผลักดันให้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ผม เพราะมันไม่จำเป็น คนที่ต่อต้านผมจะไม่พอใจ และกฎหมายต้องมีไว้สำหรับคนทุกคน ไม่ใช่เพื่อคนคนเดียว ไม่เหมือนรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นมาเพื่อให้ทหารสามารถครองอำนาจอยู่ต่อไป” ทักษิณกล่าว

ทักษิณยืนยันว่า การกลับมารับโทษจำคุกไม่ถือเป็นการทรยศต่อผู้สนับสนุนที่ต่อสู้เพื่อเขาทั้งในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา และในการชุมนุมที่เกิดขึ้นมากมาย เพราะเขาไม่ได้ยอมรับว่าตนเองทำผิด แต่เป็นเพราะอคติของระบบในอดีตที่รังแกเขา แต่ตอนนี้เขาอายุมากแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เขาจะใช้ชีวิตที่เหลือกับลูกๆ “ผมอยากกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว พวกเขาและผมต่างทนทุกข์กันมามากแล้ว”