‘เศรษฐา’ ยืนยัน ‘เพื่อไทย’ ปรับกลยุทธ์หาเสียงผ่านโซเชียลฯ ไม่ได้แก้เกมสู้กับ ‘ก้าวไกล’ ไม่เชื่อสองพรรคแย่งแต้มฝั่งเดียวกัน

‘เศรษฐา’ ยืนยัน ‘เพื่อไทย’ ปรับกลยุทธ์หาเสียงผ่านโซเชียลฯ ไม่ได้แก้เกมสู้กับ ‘ก้าวไกล’ ไม่เชื่อสองพรรคแย่งแต้มฝั่งเดียวกัน เผยขอให้เกียรติประชาชนจะให้ ส.ส.ภาคใต้กี่เสียง รอประชาชนชี้ขาดอนาคตของตัวเองจะลงเล่นการเมืองอีกยาวหรือไม่

วันที่ 27 เม.ย. 2566 ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายเศรษฐา ทวีสิน ​แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการออกโปสเตอร์กราฟฟิกนโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นพยัญชนะ 44 ตัว ว่า พรรคเพื่อไทยนโยบายเยอะ ซึ่งต้องหาวิธีการสื่อสารที่โดนใจประชาชน ตนคิดว่าจำง่าย เป็นหนึ่งในแผนงานที่จะดึงโหวตเตอร์ในโค้งสุดท้าย เป็นอีกหลายกลยุทธ์ของพรรคเพื่อไทย ตนยอมรับว่าการใช้โซเชียลมีเดียเป็นอีกช่องทาง พรรคเพื่อไทยยังมีนโยบายที่ดีอีกเยอะ

เมื่อถามว่าที่ปรับกระแสมาโซเชียลมากขึ้นเป็นเพราะคู่แข่งฝ่ายเดียวกันหรือไม่ นายเศรษฐา ปฏิเสธว่าไม่ใช่ แต่โซเชียลฯเป็นวิธีการที่จะเข้าถึงประชาชนได้ วันนี้มาหาเสียงการใช้โซเชียลฯ อาจช่วยได้ไม่เยอะ แต่ว่าในเรื่องของความเป็นจริงชาวเกษตรกร ก็ได้พูดคุยกันถึงจะทำอย่างไรให้ได้มีประสิทธิภาพในการกรีดยางดีขึ้น หากสามารถทำอย่างที่กรีดแล้ว ไม่มีน้ำยางออกมาหรือที่เรียกว่า ยางตายนึ่ง ให้กลับมา เป็นอย่างที่กรีดแล้วมีน้ำยางไหลออกมาได้ รายได้ของเกษตรกรสูงขึ้นมาก วันนี้ก็เลยต้องมานั่งพูดคุยกัน

เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยการเปิดห้องติวเข้มผู้สมัคร ส.ส.เน้นยุทธศาสตร์การหาเสียงผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นนั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ถือว่าเป็นการลุกในฐานเสียงของความเข้าใจด้วย นายเศรษฐา ตอบว่า ตนเชื่อว่าไม่ใช่ ยืนยันไม่ได้เป็นการแก้เกมกับพรรคก้าวไกล แต่มีหลายพรรคมีหลายวิธีการที่เราจะต้อง นำมาปรับปรุงแก้ไข ทุกพรรคเขาก็มีวิธีการต่างๆนานา เรื่องออนไลน์ก็เป็นเรื่องเดิม แต่เรื่องการลงพื้นที่ การปราศรัย ก็จะมีการแบ่งตามไซส์ทั้งแอลและเอสเพื่อที่จะพบปะประชาชนได้มากขึ้น ไม่ใช่แค่การพบปะปราศรัยอย่างเดียว แต่จะมีการพูดคุยปัญหาด้านธุรกิจอะไรหลายๆอย่าง

เมื่อถามว่ากระแสของพรรคก้าวไกลตอนนี้ถือว่าน่ากลัวหรือไม่เพราะอาจจะเป็นการแย่งคะแนนกันเองแต่สุดท้ายอาจจะไม่ได้ทั้งสองฝั่ง นายเศรษฐา กล่าวว่าคงเป็นไม่ได้ ถ้าจะไม่ได้ทั้งสองพรรค เพราะตนมั่นใจในสิ่งที่เราทำ เรามีความตั้งใจจริงในการที่จะนำเสนอสิ่งดีๆต่อประชาชน เรามั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะได้การตอบรับที่ดีจากประชาชน

ส่วนกระแสของพรรคก้าวไกลถือว่าน่ากลัวหรือไม่นั้น นายเศรษฐา ระบุว่า เราก็มีโพลของเราเหมือนกัน แต่เรามั่นใจตอนนี้เดินมาถูกทางแล้ว ส่วนวิธีการของพรรคก้าวไกลตนไม่สามารถที่จะไปพูดถึงหรือก้าวก่ายได้ เพราะก็มีวิธีการสื่อสารที่แตกต่างกันไป เราเองโซเชียลก็มีออนไลน์และออฟไลน์พบปะประชาชนก็มี เรามีบุคลากรที่ส่งคุณค่ามากมาย ซึ่งตอนนี้ต่างก็ลงพื้นที่ ตนมั่นใจในวิธีการขณะนี้ว่าจะนำไปสู่ชัยชนะได้

ทั้งนึ้ นายเศรษฐา ยังระบุถึงการนำพรรคเพื่อไทยลงพื้นที่หาเสียงภาคใต้ครั้งนี้จะเจาะคะแนนในพื้นที่ให้กับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ว่า ตนยังไม่ทราบว่าจะได้ ส.ส.กี่ที่นั่ง เพราะหน้าที่ตนพยายามลงพื้นที่ให้มากที่สุด และหวังว่าจะได้ ส.ส.หลายคน และตอนนี้ตนยังต้องให้เกียรติประชาชน วันนี้ขอทำให้ดีที่สุด

ถามว่าอนาคตของนายเศรษฐา จะมองการลงเล่นการเมืองแบบยาวๆ แล้วใช่หรือไม่ นายเศรษฐาระบุว่า ตนพูดในนามตัวของตนเองและคณะของพรรคเพื่อไทยที่ลงหาเสียงและดูกระแสตอบรับจากพี่น้องประชาชนว่าอนาคตว่าจะอยู่ตรงไหน เพราะประชาชนจะเป็นคนชี้ขาดอนาคตของตน

ส่สนกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ประจำจังหวัดสงขลา ทำหนังสือแจ้งเตือน อสม. ให้ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง ไม่ทำตัวเป็นหัวคะแนนนั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ส่วนตัวมั่นใจในการทำงานของ กกต. ว่าจะให้ความเป็นธรรม รวมถึงมั่นใจใน อสม. ด้วย เพราะคิดว่า อสม. ก็มีหน้าที่ ทั้งการดูแลประชาชนเรื่องยาเสพติด และเชื่อว่า อสม. รู้หน้าที่ของตัวเอง พร้อมทั้งเชื่อว่าประชาชนจะให้การดูแลการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตยุติธรรม ซึ่งหน้าที่ของตนคือการลงพื้นที่พบปะประชาชน รับฟังปัญหาเพื่อนำไปแก้ไข และหวังว่า วันที่ 14 พ.ค.นี้ จะได้คะแนนเยอะที่สุดเท่าที่สามารถทำได้

เมื่อถามย้ำถึงความมั่นใจในการเจาะพื้นที่ภาคใต้ นายเศรษฐา ย้ำว่า ต้องให้เกียรติประชาชน ไม่อยากคาดหวัง หรือคาดเดา วันนี้ขอทำให้ดีที่สุด