กิตติรัตน์กรีดแบงค์ชาติเศรษฐกิจดีแค่ทางการคลังไม่พอ ต้องสร้างเศรษฐกิจดีให้ประชาชน

กิตติรัตน์กรีดแบงค์ชาติเศรษฐกิจดีแค่ทางการคลังไม่พอ ต้องสร้างเศรษฐกิจดีให้ประชาชนรัฐบาลเพื่อไทย จะเป็นวาทยากร ควบคุมการบรรเลงเพลงเศรษฐกิจของประเทศ จนเศรษฐกิจประเทศมีเสถียรภาพทุกมิติ

ผมรู้สึกดีใจที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาแสดงความห่วงใยในเสถึยรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศเสียที ไม่ทราบว่าหายไปไหนเสียหลายปี

สำหรับผม นอกจากปริมาณเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่สูง อันเป็นความสามารถที่ยอดเยี่ยมของภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวแล้ว ประเทศที่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่ดีในระยะยาว คือภาวะการคลังของรัฐบาลที่ไม่ขาดดุล (ยอดงบประมาณรายจ่ายมากกว่ารายได้รวม) สูงยาวนานและไม่มีแนวโน้มลดลง กลายเป็นภาวะ “ขาดดุลการคลังเรื้อรัง” จนสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อขนาดเศรษฐกิจสูงทะลุเพดาน แบบไม่มียุทธศาสตร์ที่จะนำมาแก้ไข

นอกจากนั้นประเทศที่มีเสถึยรภาพทางเศรษฐกิจที่ดี ทั้งในหลักวิชาและในสายตาประชาชนเจ้าของประเทศยังมีอีกหลายประการ เช่น

1.การกระจายรายได้ที่ดี ความเหลื่อมล้ำน้อย หรือหากยังสูงก็ขอให้มี แนวโน้มที่ดีขึ้น
2.รายได้ของประชาชน สัมพันธ์กับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นจากสภาวะต้นทุนที่สูงขึ้นจากสถานการณ์ของโลก
3.อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจดีพอที่จะช่วยให้ผู้สำเร็จการศึกษาใหม่จบออกมามีงานทำ
4.อัตราแลกเปลี่ยนมีเสถียรภาพเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้า และประเทศคู่แข่ง ไม่ใช่เพียงเทียบกับเงินสกุลของประเทศยักษ์ใหญ่ ผู้ส่งออกและภาคการท่องเที่ยวจะได้สามารถแข่งขันได้ เป็นกลไกผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโต
5.อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่สูงนัก ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากก็ไม่ต่ำจน ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยสูงติดอันดับโลก ไม่มีความสุขทั้งคนกู้เงินและคนฝากเงิน ที่จะมีความสุขมากหน่อยก็คือ กลุ่มผู้กู้รายใหญ่ กับเหล่าธนาคารพาณิชย์จำนวนเพียงหยิบมือที่รายงานผลกำไรดีมากในนาทีที่มีแต่คนเดือดร้อน
6. จำนวนลูกหนี้ที่มีปัญหาความสามารถในการชำระคืน ที่คนเรียกกันติดปากว่า NPL ซึ่งย่อมากคำว่า Non Performing Loan ของระบบธนาคารพาณิชย์มีสัดส่วนที่ต่ำ และต่ำลง เมื่อเทียบกับยอดสินเชื่อรวม
7. ดุลการค้า / ดุลบัญชีเดินสะพัดใกล้เคียงภาวะสมดุล โน้มเอียงไปทางเป็นบวก

ในระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมารัฐบาลไทยรักไทย และรัฐบาลเพื่อไทย แสดงให้เห็นเป็นประจักษ์ว่าสามารถสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้มุ่งสู่ความมีเสถียรภาพในทุกมิติ

บทบาทของผู้นำรัฐบาลประชาธิปไตยที่มีความรับผิดชอบต่อรัฐสภาและประชาชน ไม่ต่างจากบทบาทของวาทยากร ผู้มีหน้าที่กำกับอำนวยเพลงให้นักดนตรีทุกคนเครื่องดนตรีทุกชิ้นเล่นในบทบาทของตน ใครเล่นอะไร- อย่างไร-ก่อน-หลัง หนัก-เบา-เร็ว-ช้า ตามหน้าที่อันควร

การที่นักดนตรีบางแผนกที่แม้จะเล่นเป็นเล่นเก่งจะลุกขึ้นมาขยับไม้ขยับมืออำนวยเพลงเอง คงไม่สมบทบาทหน้าที่ และดนตรีมิอาจไพเราะได้ ฉันใดก็ฉันนั้น พรรคเพื่อไทยจึงกำลังนำเสนอ “วาทยากร” ใหม่มาทำหน้าที่ อำนวยการปฏิบัติของทุกภาคส่วนให้ บูรณาการสอดคล้องลงตัวกันให้จงได้

ขอนักเศรษฐกิจในแผนกนโยบายการเงินฝึกฝนและปฏิบัติในส่วนของตนให้ดี เมื่อถึงเวลาประกอบวง วงดนตรีเศรษฐกิจวงนี้จะไพเราะ เหมือนครั้งที่กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย เคยทำงานสอดประสานกันจนพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศขึ้นมาได้หลังวิกฤตต้มยำกุ้ง

เราทำงานด้วยกันจนมีความสำเร็จมาแล้ว และเรามั่นใจว่าจะทำได้อีกจนเศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพสมความปรารถนาของทั้งผู้เล่นและผู้ชม

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02uvP39CrV4DQHGVr9xLQVNWhzpXuUadYqmjxkBGQ5MR86DGBkLbSufY7eAZZjEJUYl&id=100044385910938&mibextid=Nif5oz