ผู้เขียน | เผยแพร่ครั้งแรก 6 เม.ย. 66 |
---|---|
เผยแพร่ |
6 เม.ย. 66 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ทวีตข้อความ บนทวิตเตอร์ส่วนตัว @Piyabutr_FWP ระบุว่า อ่านนโยบายหลายพรรค คุยเขื่องว่าจะจัดการผลพวงรัฐประหาร ล่าสุดก็ พท (เพื่อไทย) พอเอาชัยเกษม (นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย) มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็เลยโม้เรื่องนี้ใหญ่ ผมพูดตรงๆ อย่าโม้ เหม็นขี้ฟัน คุณเป็นรัฐบาลมาแล้ว มีเสียงข้างมากมาแล้ว แต่จนวันนี้ไม่เกิดอะไรขึ้น
อ่าน ระเบิดลูกใหญ่จากปิยบุตร : ผมไม่เชื่อเพื่อไทยจะกล้าจัดการผลพวงรัฐประหาร
นายชัยเกษม พูดอะไร? เหตุใดนายปิยบุตร ที่ได้ชื่อเป็น “นักกฎหมาย” ด้วยกัน จึงออกมาแสดงท่าทีเช่นนี้
ย้อนกลับไปวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดงานปราศรัยใหญ่ ภายใต้แนวคิด “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ตอน One Team for all Thais : หนึ่งทีมเพื่อไทยทุกคน” เพื่อเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คนของพรรค คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายชัยเกษม นิติสิริ
โดยในช่วงค่ำ ได้มีการกล่าวปราศรัยโดย 3 แคนดิเดต เริ่มต้นที่นายชัยเกษม ความว่า
“ก่อนอื่น ผมอยากขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ไว้วางใจและให้โอกาสผมอีกครั้งกับการทำหน้าที่เป็น ‘แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี’ รวมถึงประชาชนทุกท่านที่เป็นกำลังใจให้ผมเสมอมา
จุดยืนของผมต่อการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผมยังยืนอยู่บนหลักการเดิมครับ คือหลักนิติรัฐและนิติธรรมที่ดี นำมาสู่ชีวิตที่ดีของประชาชน
สำหรับอดีตข้าราชการอย่างผม ถูกสอนมาเสมอว่า กฎหมายคือเครื่องมือรัฐในการควบคุมการดำเนินกิจกรรมของคนในสังคม กฎหมาย เป็นเครื่องมือในการอำนวยความสะดวกประชาชนและพัฒนาประเทศชาติ
แต่ 8 ปีที่ผ่านมา พี่น้องประชาชน เราทุกคนก็เห็นว่า หลักนิติรัฐ นิติธรรม ของประเทศไทยเราไม่หลงเหลืออะไร ไร้ซึ่งศักดิ์ศรี ความชอบธรรม และความยุติธรรม
ตำรวจ อัยการ หรือศาลเองควรหันมามองหน่วยงานตนเอง และพิจารณาว่า ได้มีการทำหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมอย่างเหมาะสม สมบูรณ์แบบทุกประการหรือไม่ หากพบข้อบกพร่องที่ประชาชนยังสงสัย หรือตำหนิติเตียนอยู่ ก็ควรรีบปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ในทางกลับกัน ประชาชนอย่างเราจะไปทำธุรกรรมต่างๆ กับหน่วยงานราชการ ก็ไม่เคยจะได้รับบริการตามที่ควรจะเป็น ไร้ซึ่งมิตรภาพและการมองเห็นประชาชนอย่างเราที่เป็นหนึ่งในผู้เสียภาษี
8 ปีที่ผ่านมา มากพอแล้วครับ ที่จะให้ประเทศไทยดำรงอยู่อย่างไร้ขื่อไร้แป กฎหมายไทยทุกวันนี้ ถูกผู้มีอำนาจเหนือกว่าทำให้กลายเป็นเครื่องมือที่รัฐจงใจนำไปใช้อย่างผิดรูป จนกระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยว เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อพรรคพวกตัวเอง ซึ่งเป็นคนไม่กี่กลุ่ม
รัฐธรรมนูญ 2560 คือหนึ่งในเครื่องมือดังกล่าว รัฐธรรมนูญ 2560 ใช้เวลาออกแบบภายใต้ฐานคิดโดยไม่มีหัวใจเป็นประชาชน ขอเพียงแค่จะทำอย่างไรก็ได้ ให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้รักษาอำนาจและสืบทอดอำนาจพรรคพวกตัวเองต่อไปได้เรื่อยๆ
ประชาชนถูกปิดปากปิดตา ไม่มีมาตราใดที่เป็นต้นคิดมากจากประชาชน การทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญยังเป็นเพียงการจัดฉากลวงตา ที่คณะรัฐประหารจัดทำขึ้นเองอย่างจอมปลอม
รัฐธรรมนูญ 2560 จึงถือเป็นวิกฤตของ ‘ชาติ’ เพราะแค่จุดเริ่มต้นที่มาของรัฐธรรมนูญก็เต็มไปด้วยเล่ห์กลมากมาย
แต่พรรคเพื่อไทยจะไม่ยอมให้เกิดเช่นนั้นขึ้นอีกแล้ว ทันทีที่พี่น้องให้ความไว้วางใจกับพรรคเพื่อไทย ทันทีที่เพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง แลนด์สไลด์ จัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ
ประการแรก – ผม และพรรคเพื่อไทยจะทำให้กระบวนการยุติธรรมเท่ากับความยุติธรรม โดยคำนึงถึงหลักนิติธรรม
เราจะ’สร้างกระบวนการยุติธรรมที่ซื้อไม่ได้’ และ ปรับปรุงยกเลิกกฎหมายทั้งหมดที่ล้าสมัย ดักดาน ไม่เอื้อประโยชน์ต่อใครนอกจากคนบางกลุ่ม เราจะลดขั้นตอน ลดการใช้ ดุลยพินิจ และทำให้พี่น้องประชาชนทุกคนไม่ว่าใครก็ตาม สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างเป็นธรรมและถ้วนหน้า
ประการที่ 2 – ผม และพรรคเพื่อไทย พร้อมแล้วที่จะปฏิรูประบบราชการทั้งระบบให้กลับมามีหัวใจเป็นประชาชนอีกครั้ง
• ใช้ระบบ Blockchain สร้างความโปร่งใสให้รัฐบาล ทุกอย่างตรวจสอบได้ ลดการคอร์รัปชั่น
• ใช้ระบบการชำระเงินและค่าธรรมเนียมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดการใช้เงินสดอันเป็นมาตรการสำคัญในการป้องกันทุจริตในระบบราชการ เพิ่มประสิทธิภาพในระบบราชการ สร้างความโปร่งใสในการทำงาน
• ใช้ Central Bank Digital Currency (CDBC) เพื่อความโปร่งใสในการจัดจ้าง การดำเนินการของภาครัฐ และยกระดับระบบการเงินของประเทศ
• สนับสนุนการทำ Open Government เพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวกมากขึ้น
• ยกระดับหน่วยงานราชการให้เป็นหน่วยงานราชการดิจิทัล (e-Government) ทุกอย่างจัดการได้บน Platform เดียว
ประการที่ 3 ประการสุดท้าย – ผมยังยืนยันที่จะพูดเช่นเดิม เหมือนทุกๆ ครั้งที่ผมกล่าวเอาไว้ ไม่ว่าจะงานเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 หรืองานประชุมใหญ่ของพรรคปีที่ผ่านมา
พรรคเพื่อไทยจะ “แก้ปมแรกของทุกปัญหา ด้วยการแก้รัฐธรรมนูญ” เพื่อให้รัฐธรรมนูญเป็นประโยชน์ ต่อการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เป็นรัฐธรรมนูญที่มีหัวใจเป็นประชาชนอีกครั้ง
พี่น้องจำกันได้มั้ยครับ รัฐธรรมนูญ 2540 ที่ทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี เข้าถึงความยุติธรรม เพื่อไทยจะทำให้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนกลับมาอีกครั้งครับ
เพื่อไทยเราจะยังคงรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยใช้สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนและผ่านขั้นตอนการออกเสียงลงประชามติโดยประชาชน เพื่อทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นของประชาชนโดยแท้
นอกจากนี้ ผมยังเคยเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อป้องกันการรัฐประหาร โดยเสนอกำหนดเอาไว้ให้อยู่ในรัฐธรรมนูญให้ชัดเจนว่า
“การรัฐประหารมีความผิดฐานเป็นกบฏ ไม่ก่อให้เกิดอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ และ ไม่มีกำหนดอายุความ แม้รัฐธรรมนูญจะถูกยกเลิกไป ก็ให้ถือเป็นประเพณีการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพื่อให้หลักการดังกล่าวนั้นสามารถบังคับได้ตลอดไป”
พรรคเพื่อไทยเคยเสนอไปหลายครั้งหลายครา แต่ด้วยเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยมีเสียงข้างน้อยในสภาและไม่มี ส.ว. แต่งตั้ง ที่ไม่ได้มาจากประชาชนสนับสนุน ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับที่พรรคเพื่อไทยเสนอ จึงไม่ได้รับการพิจารณาจากรัฐสภา
ในประเทศพัฒนาแล้ว ในประเทศที่มีหลักเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ รัฐประหารคือความผิดมหันต์และไม่มีเงื่อนไขใดๆ มารองรับความเลวทรามของมัน
แต่นับต่อจากนี้รัฐบาลเพื่อไทยอยากเห็นความยุติธรรมที่พี่น้องทุกคนสามารถกินได้ ไม่ใช่ ‘ความยุติธรรม’ ที่เป็น ‘อยุติธรรม’ หรือ ‘ความยุติธรรม’ ที่เป็นแค่ ‘เครื่องมือ’ ของคนบางกลุ่มเท่านั้น
พรรคเพื่อไทยเราเชื่อว่า การมีนิติรัฐที่ดี มีนิติธรรมที่ดี ย่อมเชื่อมโยงกับชีวิตการเมือง และเศรษฐกิจของประเทศชาติ
และการมีนิติรัฐ มีนิติธรรม มีกระบวนการยุติธรรมที่ดี ก็จะส่งผลต่อธุรกิจการค้า ทั้งในและระหว่างประเทศ นานชาติจะเกิดความเชื่อมั่นและกล้าจะลงทุน ลงเงินในประเทศไทย
นิติธรรม นิติรัฐดี เศรษฐกิจก็จะดีขึ้น แล้วพี่น้องทุกคนก็จะมีชีวิตที่ดีตามมา
พี่น้องประชาชนไม่ต้องหวาดกลัวข้อกฎหมาย ไม่ต้องระแวดระวังกับกระบวนการยุติธรรม และหน่วยงานราชการที่จะต้อนรับพวกท่านอย่างเป็นมิตร
นับต่อจากนี้ ทุกหน่วยงานราชการของรัฐบาลเพื่อไทย จะต้องเป็นดิจิทัล ทำงานโดยใช้เครื่องมือเทคโนโลยี One-Stop-Service เพื่อให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส ลดการคอร์รัปชั่น ไม่ว่าจะเป็น เงินใต้โต๊ะ หรือกรณีตั๋วช้าง เราจะพิจารณาจากคุณธรรม ความสามารถ ไม่เอาเส้นสาย
อีก 37 วันนับจากนี้ พี่น้องประชาชนทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร จะมีอุดมการณ์แบบไหน มีความเชื่ออะไร แต่หากปลายทางของคุณ คือการอยากเห็นประเทศไทยที่ดีกว่านี้ อยากเห็นตัวเองมีชีวิตที่ดีกว่านี้ อยากเห็นลูกหลานของเรามีความสุขกับอนาคตที่ตัวเองเลือกได้ อยากเห็นปลายทางของชีวิตเต็มไปด้วยแสงสว่างและความหวัง
โปรดเข้าคูหา กาเพื่อไทยทั้งคน ทั้งพรรค ให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน และยามที่ตะวันลับขอบฟ้าในวันที่ 14 พฤษภาคม…เช้าวันถัดไป ยามพระอาทิตย์ขึ้น 15 พฤษภาคม เพื่อไทยจะคิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อพี่น้องประชาชนทุกคน และรัฐธรรมนูญฉบับพรรคเพื่อไทย จะต้องมีที่มาจากประชาชน และรับใช้ประชาชนอีกครั้ง
รัฐบาลเพื่อไทยจะทำให้ความยุติธรรมกินได้ และทุกหน่วยงานราชการมีหัวใจเป็นประชาชนอีกครั้ง ในยุคสมัยของรัฐบาลเพื่อไทยนับจากนี้เป็นต้นไป