แนะกองทัพ หาวิธีสร้างวินัยให้กำลังพล โดยไม่ต้องใช้ความรุนแรง

วันนี้ (22 พ.ย.) ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวแสดงความเห็นกรณีการเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหาร โดยระบุว่ารัฐบาลจะ ผลักดันประเด็นสิทธิมนุษยชนให้เป็นวาระแห่งชาติได้อย่างไร ในเมื่อการกระทำสวนทางกับคำพูด เช่น กรณีนักเรียนเตรียมทหารเสียชีวิต การที่ผู้ใหญ่ในรัฐบาลซึ่งเป็นศิษย์เก่าและรุ่นพี่ ออกมาปกป้องระบบการซ่อมที่ทำให้นักเรียนเสียชีวิต โดยกล่าวทำนองว่าการซ่อม และการลงโทษนักเรียนจนถึงขั้นสลบหรือบาดเจ็บล้มตาย เป็นเรื่องธรรมดา ทั้งยังเอ่ยปากไล่คนที่ไม่พร้อมรับการทรมานว่าอย่ามาสมัครเป็นนักเรียนเตรียมทหารอีกด้วย สิ่งนี้สะท้อนว่าท่านกำลังสนับสนุนวัฒนธรรมการใช้กำลังและชี้ให้เห็นว่าผู้ใหญ่ในรัฐบาลไม่เข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชนเลย แถมยังเลี่ยงบาลี หันไปใช้คำว่าธำรงวินัยแทนคำว่าซ่อมอีกด้วย อยากถามว่าการธำรงวินัยนั้นมีความหมายเหมือนการซ้อมทรมานหรือไม่ นอกจากนี้ ยังน่าเป็นห่วงว่า หากรัฐบาลและกองทัพไทยไม่สามารถทำให้สังคมคลายความสงสัยในเรื่องการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำในกรณีต่างๆ ได้ อาจส่งผลกระทบต่อการเกณฑ์ทหารในอนาคต เพราะครอบครัวของชายไทยทั่วประเทศอาจไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัยของบุตรหลานที่จะเข้ารับการฝึกในกองทัพ เพราะไม่ทราบว่าใครจะเป็นรายต่อไปที่ถูกซ่อมจนถึงตาย เพราะการซ้อมทรมานนั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีใบเสร็จ และหาหลักฐานมัดตัวคนทำได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีการปกป้องการกระทำผิดอย่างเป็นระบบ ที่สำคัญ เมื่อตายไปแล้ว ผู้มีอำนาจยังจ้องโยนความผิดให้คนตายเสียอีกโทษฐานที่อ่อนแอเกินไป และหากญาติพี่น้องไม่ยอมจบเรื่องแต่โดยดี ก็อาจโดนจับไปปรับทัศนคติหรือโดนดำเนินคดีอีกด้วย

ทั้งนี้ คนไทยทุกคนไม่มีใครกลัวตายหรอก หากเป็นการตายเพื่อปกป้องประเทศจากการรุกรานของข้าศึก แต่การตายเพราะถูกซ้อมทรมานนั้น มันคุ้มค่าต่อการเสียชีวิตหรือไม่ อยากถามว่ากองทัพมีวิธีการสร้างวินัยให้กำลังพล โดยไม่ต้องใช้ความรุนแรงหรือใช้วิธีซ้อมทรมานหรือไม่ หากรัฐบาลไม่มีคำตอบที่ดีพอให้แก่สังคม ก็ไม่มีใครเชื่อมั่นว่าท่านจะผลักดันประเด็นสิทธิมนุษยชนให้เป็นวาระแห่งชาติได้จริงอย่างที่กำลังสร้างภาพตบตาประชาชน