‘สุวัจน์’ เสนอ 6 ข้อ สร้างการเมืองใหม่ เคารพการเลือกตั้ง-ปชต. เน้นกระจายอำนาจ

”เอนก” พอใจ หลังรับฟังนักการเมือง “นิกร-อนุทิน”เห็นพ้องปฏิรูปสร้างปฏิรูปเพื่อให้การเลือกตั้งเรียบร้อย ยอมรับความเห็นเรื่องปฏิรูปอาจซ้ำกับข้อเสนอเรื่องการปรองดอง ขณะที่“สุวัจน์”ระบุ ชาติพัฒนา ไม่กังวลการปฏิบัติตัวให้สอดคล้องกฎหมายพรรค หวังผู้ที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อน

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่สภาพัฒนาการเมือง ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง ที่มีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธาน ได้มีการเชิญนักการเมืองมาให้ข้อมูลและแสดงความคิดเห็นในการจัดแผนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง เป็นวันที่ 3 โดยวันนี้เป็นการเชิญนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาให้ความเห็น

โดยนายเอนก กล่าวว่า จากการให้ข้อมูลของนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ต่างก็เห็นด้วยกับ 5 ประเด็นในร่างแผนปฏิรูปและเห็นว่าควรจะเน้นเรื่องการสร้างสันติสุข เพราะถ้าทำสิ่งนี้ได้การเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรมก็จะตามมา ซึ่งเมื่อคณะกรรมการฯได้รับฟังความเห็นจากผู้ที่เชิญมาทั้งหมดแล้ว ก็จะทำแผนปฏิรูป และเมื่อจัดทำแล้วเสร็จก็จะมีการเปิดรับฟังความเห็นประชาชน แม้ประชาชนอาจรู้สึกเบื่อเพราะให้ความเห็นกับหน่วยงานต่างๆมาแล้วก็ตาม แต่ทางคณะกรรมการฯก็จะพยายามนำความเห็นมาเรียบเรียงเพื่อจัดทำเป็นแผน โดยทุกอย่างจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2561

อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้มองว่าข้อเสนอของคณะกรรมการชุดนี้จะไปซ้ำกับของคณะกรรมการบริหารราชแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง หรือ ปยป. เพราะข้อเสนอของปยป.ส่วนใหญ่เน้นเรื่องการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความสามัคคีและปรองดอง แต่ในส่วนของคณะกรรมการฯชุดนี้ จะเน้นในเรื่องของการปฏิรูปการเมืองว่าคุณอยากเห็นบ้านเมืองในวันข้างหน้าอย่างไร และถ้าได้เข้าไปเป็นรัฐบาลมีความคิดในเรื่องของการปฏิรูปการเมืองอย่างไร

ด้านนายสุวัจน์ กล่าวว่า จะนำประสบการณ์การเมืองในแต่ละช่วงมาให้เป็นข้อมูลกับคณะกรรมการฯ ซึ่งคิดว่าจะเป็นประโยชน์ และจะให้ความเห็นในกรอบ 5 ประเด็นของคณะกรรมการฯ ซึ่งก็อยากให้การทำงานของคณะกรรมการฯประสบความสำเร็จ เพราะที่ผ่านมาปัญหาบ้านเมืองทำให้ประเทศไม่ค่อยจะเรียบร้อย ส่วนในเรื่องของการปรองดองควรทำก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง ตนเห็นว่าการปรองดองเป็นเรื่องดี การทำก่อนหรือหลังถือเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศการเมืองให้เรียบร้อย ซึ่งในส่วนของการทำงานก็มีปยป.ทำงานอยู่ แต่ถ้านักการเมืองด้วยกันเองสามารถที่จะส่งสัญญาณการปรองดองให้ชัดเจน เช่น สามารถมีไมตรีต่อกัน ให้ความร่วมมือกัน ยอมรับเงื่อนไขต่างๆที่มีอยู่ในขณะนี้ ถ้าทุกคนนึกถึงจุดนี้ว่าปรองดองกันได้ก็จะนำไปสู่การเลือกตั้งที่เรียบร้อย

เมื่อถามว่า พรรคชาติพัฒนามีปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสมาชิกพรรคตามพ.ร.ป.พรรคการเมืองหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ผู้เกี่ยวข้องคงเตรียมการกัน ทางพรรคยังไม่ได้พูดคุยอะไร เพราะคงต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่มีอยู่ในขณะนี้ อย่างกกต.ที่มีหน้าที่ก็ต้องเตรียมการไป เมื่อทุกอย่างคลี่คลายก็คงได้มีการดำเนินการ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นายสุวัจน์ กล่าวภายหลังเข้าชี้แจงคณะกรรมการปฏิรูปด้านการเมือง กล่าวว่า ได้ให้ข้อเสนอแนะกับคณะกรรมการฯใน 6 ประเด็น 1.ต้องสร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและระบบเศรษฐกิจ รวมถึงสร้างบรรยากาศที่จะดึงนักการเมืองรุ่นใหม่เข้ามา 2. ส่งเสริมบทบาทของพรรคการเมืองให้มีความเข็มแข็ง โดยพรรคการเมืองอนาคตควรเป็นพรรคขนาดกลางที่เหมาะสมกับโครงสร้างทางการเมืองที่เปลี่ยนไปในขณะนี้ เพื่อทำให้การเมืองไม่เกิดเดทล็อค 3. สร้างการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยให้ประชาชนเป็นโหวตเตอร์ที่มีความเข้มแข็งและมีคุณภาพ เพื่อจะได้มาตัดสินใจในการเลือกผู้แทนที่ดีในขั้นตอนสุดท้าย 4. ร่วมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองให้เกิดขึ้น ให้นักการเมืองมีสปิริตรู้แพ้ รู้ชนะรู้อภัย 5.แก้ไขปัญหาความขัดแย้งก่อนการเลือกตั้ง ทำอย่างไรจะแก้ความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ เป็นไปได้หรือไม่ที่ทุกพรรคการเมืองจะมุ่งมั่น ตั้งใจความร่วมมือแก้ปัญหา เพื่อจะเข้าสู่การเลือกตั้ง และเคารพผลการเลือกตั้ง ไม่สร้างเงื่อนไขที่จะนำไปสู่เดทล็อคทางการเมือง และนำบ้านเมืองกลับสู่ความขัดแย้งอีก 6. การกระจายอำนาจ ทำอย่างไรที่จะให้ท้องถิ่นสามารถใช้ทรัพยากรในพื้นที่สร้างความมั่งคั่งให้กับท้องถิ่นเอง

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องให้พรรคการเมืองลงสัตยาบันเพื่อยอมรับผลการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของแต่ละพรรค ที่จะแสดงความตั้งใจออกมาก็ได้ หรือถ้ามีเวทีแล้วให้แต่ละพรรค แต่ละคนไปแสดงเจตนาออกมาก็ได้ ก็จะทำให้ประชาชนสบายใจ และเกิดบรรยากาศที่ดีและลดความขัดแย้งในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น