“บิ๊กป้อม” ยัน นักเรียนเตรียมทหารเนื่องจากปัญหาสุขภาพ ยัน ไม่มีการทำโทษ

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง กรณีนักเรียนเตรียมทหารที่เสียชีวิต ว่า จากการตรวจของแพทย์ที่นำหัวใจไปตรวจ พบว่าเขาเสียชีวิตอย่างเฉียบพลัน

เมื่อถามว่า เครื่องในของเขาหายไป พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็หมอเขาเอาไปตรวจ ก็ต้องไปถามที่โรงพยาบาล ซึ่งเขากำลังตรวจสอบอยู่ ทั้งนี้ เรื่องนี้ไม่มีคู่กรณี เพราะนักเรียนเตรียมทหารรายนี้เขาป่วยอยู่โรงพยาบาลตลอด และกลับมาเรียน กลับไปกลับมาจนไม่ไหว ไม่ใช่เรื่องของการทำโทษ เพราะผู้บัญชาการทหารสูงสุดบอกกับตนเองว่าไม่ใช่

เมื่อถามว่า แต่ตามหลักการหากเอาอวัยวะภายในไปตรวจก็ต้องคืนให้ก่อนที่จะมีการเผาศพ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็เขายังไม่ได้เผาเลย เขาเผาแต่โลง

เมื่อถามถึงกรณีที่มีซี่โครงหัก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี ไม่จริง ทั้งนี้ ตนเรียกผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาให้ข้อมูลเช้านี้ เขาแจ้งว่าเสียชีวิตเนื่องจากร่างกายอ่อนแอ และป่วยเป็นโรคหัวใจ ส่วนที่ครอบครัวเขาติดใจ เราจะไปทำอย่างไรได้ ตนก็เสียใจที่ท่านต้องมาเสียลูกไป ทั้งนี้ เรื่องนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดท่านก็จะดูแลอย่างเต็มที่ และไม่มีใครอยากให้มีการเสียชีวิต

ด้าน พล.ต.กนกพงศ์ จันทร์นวล ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร กล่าวถึงกรณีที่ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิต ว่า ในวันที่น้องเมย เสียชีวิต ตนอยู่กับบิดามารดา และได้พูดคุยกับคุณพ่อมาโดยตลอด ซึ่งการที่คุณพ่อนำศพไปชันสูตรอีกครั้ง ก็ไม่ได้แจ้งกับตนให้รับทราบ อีกทั้งการเสียชีวิตครั้งนี้ เป็นการเสียชีวิตที่ผิดตามธรรมชาติ เราก็ได้แจ้งให้ทางตำรวจนำศพของน้องเมยไปชันสูตรและทางคุณแม่ก็รับทราบ โดยในขณะนั้นมีแพทย์ทางโรงพยาบาล มี ตนและคุณพ่อคุณแม่อยู่ด้วยกันในช่วงเวลาประมาณ 3-4 ทุ่ม ซึ่งคุณแม่ก็ก็เต็มใจที่จะให้มีการชันสูตร

“ผมได้บอกกับทางคุณพ่อคุณแม่ว่าต้องเรียกตำรวจมาชันสูตรพลิกศพ และเมื่อได้รับความยินยอมจากครอบครัว ตำรวจจึงได้ส่งศพไปชันสูตร ซึ่งถือเป็นความเข้าใจร่วมกันอยู่แล้ว ทั้งโรงเรียน ครอบครัวของเด็ก รวมถึงตำรวจ ซึ่งตรงนี้สามารถตรวจสอบได้ ส่วนกรณีที่ทางคุณพ่อคุณแม่นำศพไปชันสูตรอีกรอบนั้นผมไม่ทราบ เพราะผมไปร่วมงานศพทุกคืน.จนถึงวันเผาศพ มีทั้งเพื่อนนักเรียนและอาจารย์ ไปร่วม” ผบ.รร.เตรียมทหาร กล่าว

พล.ต.กนกพงศ์ กล่าวอีกว่า ตนพึ่งมาทราบทีหลังว่าทางคุณพ่อคุณแม่ได้นำศพของน้องไปชันสูตรอีกครั้งและทางครอบครัวของน้องเมย เดินทางมาพบตน เพื่อขอให้ตรวจสอบว่าเรื่องดังกล่าวมันเป็นอย่างไร ซึ่งวันนี้หลังจากพบผู้บัญชาการทหารสูงสุดแล้วคงจะทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าในส่วนกรณีที่ทางพ่อแม่น้องเมย ติดใจเรื่องการทำโทษบุตรชายนั้น ยืนยันว่าขั้นตอนของการลงโทษเป็นไปตามขั้นตอนทางทหาร คือห้ามแตะเนื้อต้องตัวกัน เพราะผิดกฎหมาย