“พระเนติวิทย์” ผู้รณรงค์เลิกเกณ์ทหาร หมดสิทธิ์ผ่อนผันแล้ว ถึงคิวต้องจับใบดำ-แดง

“พระเนติวิทย์ ” ผู้รณรงค์ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร จับใบดำ-ใบแดง เม.ย.นี้ หลังหมดสิทธิ์ผ่อนผัน

เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง กองทัพบก แจ้งเตือนชายไทย เข้ารับการตรวจเลือกทหารกองประจำการ ประจำปี 2566 ใน 1- 20 เมษายน (เว้นวันที่ 6 และ 13 – 15 เมษายน 2566) โดยชายไทยที่ต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหารในปีนี้ ได้แก่ผู้ที่เกิด พ.ศ. 2545 (อายุครบ 21 ปีบริบูรณ์) กับผู้ที่เกิดพ.ศ. 2537 – 2544 (อายุ 22-29 ปี) ที่ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือกหรือการตรวจเลือกยังไม่แล้วเสร็จ) โดยให้เข้ารับการตรวจเลือก ตามวัน เวลา และสถานที่ ในหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.35) พร้อมนำเอกสารไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ได้แก่ บัตรประชาชน, ใบสำคัญทหารกองเกิน (สด.9), หมายเรียกฯ (สด.35), วุฒิการศึกษา และใบรับรองแพทย์ สำหรับผู้ที่ขอผ่อนผันให้ไปรายงานตัวในวันตรวจเลือกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับปีนี้ พระเนติวิทย์ (เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักเคลื่อนไหวและนักกิจกรรม ) ต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหาร หรือ จับใบดำ-ใบแดง หลังหมดสิทธ์การผ่อนผันแล้ว เนื่องจากอายุครบ 27 ปี ซึ่งตาม พรบ.การเกณฑ์ทหารต้องเข้ารับการตรวจเลือก แม้จะยังศึกษาอยู่ก็ตาม

สำหรับ พระเนติวิทย์ เข้าอุปสมบท ณ วัดญาณเวศกวัน ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2565 ได้รับฉายาว่า “จรณสมปนโน” หมายถึง “ผู้ถึงพร้อมด้วยจรณธรรม”

ในอดีต พระเนติวิทย์ เป็นนักกิจกรรม ขับเคลื่อนประเด็นเรื่องเครื่องแบบนักเรียน ทรงผมนักเรียน ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และการปฏิรูปศาสนา มาอย่างต่อเนื่อง

ในการผ่อนผันเกณฑ์ทหารเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา เป็นครั้งที่ 6 ครั้งสุดท้ายของการผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร พระเนติวิทย์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้มาผ่อนผันเป็นครั้งที่ 6 และในครั้งเป็นครั้งสุดท้าย ก็ต้องมาต้องต่อสู้ กับเรื่องนี้เราต้องสู้ให้ถึงสุด ผมก็ไม่เห็นด้วยกับระบบเกณฑ์ทหารผมคิดว่า มันไร้สาระมาก ตอนนี้ก็เสียเวลาชีวิตมาก คนส่วนมากก็ต้องเสียเวลา ต้องผ่อนผันทุกปี ทั้งที่มันต้องระบบอะไรที่มันต้องรวดเร็วกว่านี้ ไม่ต้องรอประธานอะไร เพราะมันหมดสมัยไปแล้ว และระบบเกณฑ์ทหารมันล้าหลังไปแล้ว ทำให้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจทางชีวิตบุคคลต่าง ๆ มันสูญเสีย อยากให้ทุกคนทบทวนเรื่องนี้ และออกมาต่อต้าน กล่าวในที่สุด

ในปี 2561 เนติวิทย์เป็น 1 ใน 50 บุคคลชาวเอเชียที่น่าจับตามองแห่งปี (50 Asians to Watch) สาขาบุคคลสาธารณะผู้เคลื่อนไหวสังคม ประจำปี 2018 โดยสำนักข่าวสเตรทไทม์ส (Straits Times) ของสิงคโปร์ และได้รับเชิญให้เป็น 1 ในปาฐกงาน Oslo Freedom Forum ประจำปี 2018 จากมูลนิธิ Human Rights Foundation ซึ่งเป็นเวทีระดับโลกที่พูดถึงประเด็นสิทธิมนุษยชน และเป็นส่วนหนึ่งเคลื่อนไหวการประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563