“จุรินทร์ ” นั่งหัวโต๊ะถกนโยบายเศรษฐกิจ ลั่นหากได้เป็นรบ.พร้อมอัดฉีดเงิน 1 ล้านล้านบาท

ปชป.เปิดทีมเศรษฐกิจ “จุรินทร์” นั่งหัวโต๊ะถกนโยบาย ลั่นหากได้เป็นรบ.พร้อมอัดฉีดเม็ดเงิน 1 ล้านล้าน เข้าระบบ โดยไม่กระทบหนี้สาธารณะ ไม่สน โพลชี้ไม่ติด1ใน10 ที่คนกรุง อยากเลือกเป็นนายกฯ ลั่นยังมั่นใจกระแสตอบรับดีขึ้น

เมื่อวันที่ 26 มี.ค.เวลา 10.30 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ​รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคปะชาธิปัตย์ ประชุมทีมเศรษฐกิจของพรรคฯ อาทินายพิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานนโยบายพรรค ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ จันทรทัต อดีตซีอีโอ. บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา และอดีตกรรมการและรักษาการณ์กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารอิลามแห่งประเทศไทย นายเกียรติ สิทธีอมร อดีตรองประธานหอการค้าโลก น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค และนายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ประธานคณะทำงานเศรษฐกิจทันสมัย ปชป.โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ1ชั่วโมง

จากนั้นนายจุรินทร์แถลงว่าเป็นการประชุมส่วนหนึ่งของทีมเศรษฐกิจเพื่อหารือในเรื่องนโยบายเพิ่มเติมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ หากปชป.มีโอกาศจัดตั้งรัฐบาล คือเราจะสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ เป็นกรอบใหญ่ของการขับเคลื่อนประเทศ ทั้งการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ โดยพรรคจะให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจฐานราก มหภาค และทันสมัย โดยจะมีเศรษฐกิจอนาคตอยู่ด้วย สำหรับเศรษฐกิจฐานรากจะมุ่งเน้นทั้งการให้ความสำคัญกับการเกษตรกร อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวที่จะเป็นพื้นฐานในการสร้างเงินให้ประเทศ ซึ่งจะมีนโยบายให้ความสำคัญกับพืชเศรษฐกิจ ปศุสัตว์ ประมง เอสเอ็มอี หมู่บ้านชุมชน และผู้ใช้แรงงานเป็นต้น

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ส่วนเศรษฐกิจมหภาคจะเน้นการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การสร้างเสถียรภาพและลดความเหลื่อมล้ำ เป็นเป้าหมายหลัก ส่วนเศรษฐกิจทันสมัยและอนาคตนั้นจะเน้นการพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยีทางด้านเศรษฐกิจ โดยให้ความสำคัญกับความยั่งยืนควบคู่ไปส่วนรายละเอียดของเศรษฐกิจทีนสมัยพรรคจะให้ความสำคัญ Silver Economy (เศรษฐกิจผู้สูงวัย) โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุสามารถมีบทบาทสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซอฟต์พาวเวอร์ โซเชียล ดิจิทัล

“วันนี้ได้มีความเห็นตรงกันว่าเราจะอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ถ้าเรามีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาท เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ ส่วนที่มาของเงินที่จะนำมาใช้จะมีเงินแต่ละแหล่ง ทั้งส่วนของงบประมาณแผ่นดิน และแหล่งอื่นๆที่มี อยู่ในจุดต่างๆ โดยเราดูอย่างรอบคอบแล้ว โดยจะไม่เน้นสร้างหนี้สาธารณะโดยไม่จำเป็น” นายจุรินทร์ กล่าว

เมื่อถามถึงนโยบายเฉพาะในพื้นที่กทม.ที่จะต้องเสริมเข้าไปอีก นายจุรินทร์กล่าวว่าในส่วนของกทม.พรรคฯ ได้แถลงนโยบายไปแล้ว โดยยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และกทม.เป็นพื้นที่ที่พรรคฯให้ความสำคัญโดยมีนโยบาย2 ส่วนคือนโยบายรวมและนโยบายเฉพาะทีมกทม. ซึ่งนโยบายที่เกี่ยวพันกับคนกทม.เช่นจัดตั้งธนาคารชุมชน 2,800กว่าแห่ง ๆ ละ2 ล้านบาท รวมถึงการจัดให้มีอินเตอร์เน็ตฟรี 1 ล้านทั่วประเทศ ซึ่งจะอยู่ในกทม.ไม่ต่ำกว่า1 แสนจุด เพื่อให้อินเตอร์เน็ตช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจหรือสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในชุมชน เป็นต้น

เมื่อถามว่านโยบายของพรรคคิดว่าจะโดนใจคนกทม.หรือไม่เพราะผลสำรวจล่าสุดที่ออกมาพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ติดอันดับ 1 ใน 10 นายกรัฐมนตรีที่คนกทม.จะเลือก นายจุรินทร์กล่าวว่าทตนคิดว่าการเลือกตั้งเที่ยวหน้ามีบัตร 2 ใบคือเลือกผู้สมัครกับเลือกพรรค ตนมั่นใจว่าสำหรับผู้สมัครเราคัดคนที่มีคุณภาพและศักยภาพที่ดีที่สุดยุคหนึ่งที่นำเสนอให้คนกทม.แล้ว ส่วนพรรคฯเรามั่นใจว่าเสียงตอบรับดีขึ้นเป็นลำดับ ส่วนโพลที่ออกมาก็ต้องดูว่าอยู่ที่โพลไหน และการสำรวจแต่ละช่วงเวลาด้วย ตนไม่ขอวิจารณ์แต่เราก็มั่นใจของเรา เพราะจากการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องทุกเสียงสะท้อนก็ออกมาใกล้เคียงกันว่าเสียงตอบรับดีขึ้น ตนจึงมั่นใจว่าเราจะมีเสียงตอบรับที่ดีขึ้นเป็นลำดับ

ต่อข้อถามว่าเมื่อเช่นนี้ในส่วนของทีมกทม.จะต้องทำงานหนักขึ้นใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่าจะต้องทำจนกระทั้งถึงวันสุดท้ายที่สามารถจะหาเสียงได้ และหลังจากนั้นก็ยังต้องทำเพราะประชาธิปัตย์กับกทม.ผูกพันมายาวนาน ยามทุกข์ยามสุขเราไม่เคยทิ้งคนกทม.ดูได้จากตอนวิกฤตโควิด-19 นับนิ้วได้ว่ามีกี่พรรคที่ลงไปช่วยดูแลคนกทม. ซึ่งปชป.เป็นหนึ่งในนั้นที่ทำอย่างต่อเนื่อง

ส่วนเรื่องการจัดสรรค์ผู้สมัครในแต่ละเขตทั่วประเทศนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่าเบื้องต้นครบ400 เขต และบัญชีรายชื่อครบ 100 คนแล้ว เพียงแต่ต้องรอการทำไพรมารี่ ซึ่งเราทำ 3 วันคือ25-27 มี.ค.หากผลการทำไพรมารี่จบเมื่อไหร่ และให้ความเห็นชอบก็จะครบทั้ง500 คน ก็จะประกาศให้ทราบต่อไป จึงถือว่าพรรคปชป.พร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้