“ประยุทธ์” ขออย่านำเรื่องความขัดแย้งมาหาเสียง ถามกลับ พบ“น้องมายด์”แล้วได้อะไร

“บิ๊กตู่” ขออย่านำเรื่องความขัดแย้งมาหาเสียง หลังเกิดภาพ น้องมายด์ บุกพบ “บิ๊กป้อม” ถามแขวะพบเพื่ออะไร ถ้าเป็นเรื่องการเมืองผมไม่พบ “ชี้”ถ้าทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็จะได้รับความยุติธรรมตอบ

เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 24 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้พบกับ น้องมายด์ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล แกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563 ในฐานะที่เป็นสื่อมวนชนจากรายงานมุมมองมายด์ว่า ก็ไม่เป็นไรนิ

เมื่อถามย้ำว่ามีโอกาสที่จะเห็นภาพเช่นนี้กับพล.อ.ประยุทธ์บ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ถอนหายใจพร้อมกล่าวว่า “คือการพบนั้นต้องดูว่าพบแล้วมันได้อะไรเข้าใจหรือไม่ ถ้าพบกันแล้วเพื่อการเมืองอย่างเดียวผมไม่จำเป็นต้องพบใคร เพราะผมพบทุกวันอยู่แล้ว ผมไม่ได้มุ่งหวังทางการเมือง”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือประเทศชาติมันก็ต้องมีกฎหมาย เพราะฉะนั้นถ้าเราระมัดระวังตัวไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมายหรือล่อแหลมมันไม่มีปัญหาอะไรหรอก ไม่ต้องไปวุ่นวายเรื่องการนิรโทษกรรมหรือการอะไรต่างๆ ไม่วุ่นวายอะไรหรอก เราไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากการอะไรก็แล้วแต่ ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ วันนี้เป็นรัฐบาลประชาธิปไตยแล้วทุกอย่างประชาชนก็เห็นแล้วว่าเราพยายามบริหารให้ดีที่สุด การบังคับใช้กฎหมายก็ไม่ได้รุนแรงอย่างที่หลายๆคนพูด เราระมัดระวังผ่อนผัน ป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเด็กๆเยาวชน อีกฝ่ายก็ออกมาบอกว่ารัฐบาลปล่อยปละละเลย ทำไมไม่ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย มันมีข้อขัดแย้งจากสองส่วนนี้ แล้วตนบริหารงานมา 8 ปี หรือ 4 ปีหลังตนทำให้สองฝ่ายเบาๆลง นี่คือสิ่งที่ทุกคนอาจจะลืมไป ไม่มีใครทำให้มันหยุดได้หรอกถ้าประชาชนไม่หยุดตัวเอง

“ผมพยายามประคับประคองทั้งสองข้างให้เกิดความสมดุลขึ้นมา ขณะเดียวกันก็ต้องดูคนที่มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ด้วย ซึ่งวานนี้ผมบอกแล้วว่าคนไทยประเทศไทยเป็นหุ้นส่วนของประเทศเราทุกคน ถ้าเปรียบเทียบประเทศไทย การบริหาร รัฐบาล และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นบริษัทห้างร้านวิสาหกิจ ผู้ถือหุ้นของรัฐบาลก็คือประชาชนคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะยากดีมีจนเราต้องบริหารให้เขาให้ประเทศและประชาชนของเรานั่นคือหน้าที่ของรัฐบาลและหน้าที่ของผู้นำรัฐบาล หน้าที่ของครม.และทุกกระทรวง ผมจึงไม่อยากให้หลายๆอย่างมันพังทลายไปทั้งหมดที่เราสร้างสิ่งดีๆ ขึ้นมา

แน่นอนว่ายิ่งทำเยอะปัญหามันก็เยอะแต่ต้องไปดูว่าสิ่งที่ทำมาแล้วนั้นเกิดประโยชน์อะไรกับประเทศชาติและประชาชน แน่นอนว่าถ้าผมอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรมากนักก็คงไม่โดนหรือเจอปัญหาเหล่านี้ ผมก็ไม่ปวดหัวด้วย ปล่อยไปใครอยากจะทำอะไรก็ทำก็ทำไปเช่นที่เคยผ่านมา ซึ่งไม่มีผลงานเป็นรูปธรรมมากนัก ผมจำเป็นต้องพูดไม่เช่นนั้นประชาชนจะไม่เข้าใจก็ฝากสื่อด้วยแล้วกัน ถ้าอยากจะทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ประชาชนมีอนาคต ผมไม่ได้หมายความว่าจะต้องมาชอบหรือรักผม ไม่ใช่ ประชาชนเป็นกลไกหลักในการที่จะทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า นายกฯ และครม.เป็นแต่เพียงผู้รับสิ่งต่างๆ มาพิจารณาและดำเนินการให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศ วันนี้มันไม่ใช่ที่จะไปแตกแยกกันอีก มันไม่มีความขัดแย้งอะไรขนาดนั้น

เพราะฉะนั้นผมไม่อยากให้นำเรื่องนี้มาหาเสียงกันมากนักในขณะนี้นั่นคือปัญหาแล้ว เพราะมันเป็นการจุดชนวนขึ้นมา เพราะหลายคนก็มีความสุขดีประชาชนเขาไม่ได้เดือดร้อน และเขาอยากให้บังคับใช้กฎหมายด้วยไม่ใช่หรือ ใช่ไหม ถ้าสมมุตว่าเราอย่างนี้อย่างนั้นปัญหามันก็เกิดขึ้นมาใหม่ เพราะฉะนั้นอย่าไปสร้างปัญหาใหม่ให้เกิดขึ้นมาอีก ปัญหาเก่าต้องแก้ด้วยความเข้าใจ แก้ด้วยความยุติธรรมให้กับเขา ไม่มีใครแกล้งหรอกถ้าทุกคนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็จะได้รับความยุติธรรม”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว