สรุปข่าวต่างประเทศ : ทหารเกาหลีเหนือโดนกระหน่ำยิงหลังเตรียมหนี / นักการเมืองหญิงคู่แข่งอาเบะลาออก

เกาหลีใต้

โซล – สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า กองบัญชาการกองกำลังสหประชาชาติ (ยูเอ็นซี) ที่นำโดยสหรัฐอเมริกาซึ่งทำหน้าที่ในการตรวจตราบริเวณชายแดนระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ บริเวณเขตปลอดทหารปันมุนจอม แถลงเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ว่า เกิดเหตุทหารเกาหลีเหนือนายหนึ่งพยายามจะหนีข้ามมายังพรมแดนเกาหลีใต้ โดยอาศัยการขับรถก่อนทิ้งรถแล้ววิ่งข้ามพรมแดน เป็นเหตุให้ถูกทหารเกาหลีเหนือที่ยืนรักษาการณ์อยู่ยิงเข้าใส่ถึง 6 นัด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส

อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายเกาหลีใต้นำตัวนายทหารโสมแดงคนดังกล่าวส่งโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์เปิดเผยว่า บาดแผลที่ร้ายแรงที่สุดคือบาดแผลที่ช่องท้อง โดยขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัวและไม่สามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง

ขณะที่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ทหารเกาหลีเหนือยิงปืนออกมาอย่างน้อย 40 นัด หลังจากที่ทหารนายหนึ่งวิ่งข้ามชายแดนมา

อิหร่าน

เตหะราน – เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงบริเวณชายแดนอิหร่าน-อิรัก ช่วงคืนวันที่ 12 พฤศจิกายน โดยอ้างรายงานของสถานีโทรทัศน์ทางการอิหร่าน ระบุว่า นายพีร์-ฮุสเซน โคลีแวนด์ ผู้อำนวยการสำนักงานการแพทย์ฉุกเฉินแห่งอิหร่าน แถลงยุติปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตในพื้นที่ประสบเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 7.3 แมกนิจูด บริเวณจังหวัดเคอร์มานชาห์ ทางตะวันตกของประเทศซึ่งห่างจากชายแดนบริเวณแคว้นเคอร์ดิสถานของอิรักเพียง 15 กิโลเมตร ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวได้เพิ่มสูงขึ้นกว่า 450 รายแล้ว ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกไม่น้อยกว่า 7,000 คน อาคารบ้านเรือนกว่า 30,000 หลังได้รับความเสียหายในพื้นที่ใกล้เคียงรวม 14 จังหวัด โดยการยุติค้นหาผู้รอดชีวิตดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่ระบุว่าโอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมมีน้อยมากแล้ว

โทรทัศน์อิหร่านเผยแพร่ภาพผู้ประสบเหตุในหลายพื้นที่ตกอยู่ในสภาพไร้ที่อยู่อาศัย ต้องนอนกันตามมีตามเกิดในค่ายอพยพชั่วคราวซึ่งจัดทำขึ้นในที่โล่งท่ามกลางอากาศหนาวเย็นและต้องเผชิญกับอาฟเตอร์ช็อกหลายระลอกนับร้อยครั้ง หลายจุดได้รับแจกเต็นท์ที่พักชั่วคราวจากสภาเสี้ยววงเดือนแดง หน่วยงานกาชาดของอิหร่าน แต่ยังไม่เพียงพอ พร้อมกันนั้นก็ยังขาดแคลนอาหาร น้ำและไฟฟ้า ในขณะที่ถนนหนทางได้รับความเสียหายและถูกปิดเพราะซากปรักหักพังทำให้การช่วยเหลือยังเข้าไม่ถึงในหลายจุด จนกังวลกันว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มจากภาวะอากาศเย็นจัด

ด้านอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านแถลงแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้สูญเสียในเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐระดมความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัยให้มากที่สุดและเร็วที่สุด

ญี่ปุ่น

Tokyo governor Yuriko Koike annouces the name of new political party “Kibo no To (Party of Hope),” during a press conference in Tokyo on September 25, 2017, ahead of a general election expected next month, saying she will become its head.
Voters in the world’s third-largest economy could go to the polls as soon as October 22, more than a year earlier than expected, as Prime Minister Sinzo Abe seeks to take advantage of a political opposition in disarray. / AFP PHOTO / JIJI PRESS / STR / Japan OUT

โตเกียว – สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน นางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว วัย 65 ปี ที่เคยถูกคาดหมายว่าอาจจะได้ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น ได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคแห่งความหวังที่นางโคอิเกะเป็นผู้ก่อตั้งขึ้นเองเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาแล้ว หลังจากนำพรรคพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งทั่วไปที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมาไปอย่างน่าผิดหวัง โดยพรรคแห่งความหวังส่งผู้สมัครลงแข่งขันทั้งสิ้น 235 ที่นั่ง แต่กลับคว้าที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรมาได้เพียงแค่ 50 ที่นั่ง ส่วนพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ภายใต้การนำของ นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกวาดที่นั่งในสภาไปได้อย่างถล่มทลายมากถึง 2 ใน 3

นางโคอิเกะประกาศตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งต่อที่ประชุมพรรคแห่งความหวัง หลังจากที่ได้มีการเลือกคณะกรรมการบริหารชุดใหม่แล้ว ซึ่งนางโคอิเกะกล่าวว่า ขอลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคและจะให้การสนับสนุนพรรคตามกำลังความสามารถที่เหมาะสม นางโคอิเกะยังให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายหลังว่า ได้ยุติการเป็นหัวหน้าพรรคแห่งความหวังแล้ว แต่จะอยู่ในพรรค และจะมุ่งเน้นทำงานในฐานะเป็นผู้ว่าการกรุงโตเกียวที่จะเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี ค.ศ.2020

ทั้งนี้ โคอิเกะ อดีตล่ามภาษาอาหรับ ผู้สื่อข่าวและผู้ประกาศข่าวสาวที่ผันตัวเข้าสู่วงการเมือง กระทั่งนางโคอิเกะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการเมืองญี่ปุ่นในฐานะเป็นผู้ว่าการกรุงโตเกียวที่เป็นผู้หญิงคนแรก โดยนางโคอิเกะกลายเป็นนักการเมืองหญิงพุ่งแรงที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากการประกาศกร้าวที่จะขจัดการเล่นการเมืองแบบเก่า แต่ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านมา ความนิยมส่วนหนึ่งของนางโคอิเกะถูกสั่นคลอน เพราะไม่ยอมลงสมัครแข่งขันด้วย กลายเป็นจุดพลิกสำคัญที่ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวญี่ปุ่นเกิดความสับสนว่าหากพรรคแห่งความหวังชนะเลือกตั้ง แล้วใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่มีโพลของซันไคชิมบุนเผยแพร่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาชี้ว่าความนิยมในพรรคแห่งความหวังของนางโคอิเกะลดลงเหลือเพียง 3.9 เปอร์เซ็นต์ จาก 9.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามมากถึง 77 เปอร์เซ็นต์เรียกร้องให้นางโคอิเกะหันไปทุ่มเททำงานในฐานะเป็นผู้ว่าการกรุงโตเกียวให้มากขึ้น