เผยแพร่ |
---|
‘บิ๊กตู่’ เผยอ่านจดหมาย ‘บิ๊กป้อม’ แล้ว บอก ไม่มีอะไร เมินย้อนฟื้นรัฐประหาร วอน เลิกพูดได้แล้วเรื่องเก่า ถามวันนี้ใครจะทำ เชื่อดิสเครดิตหลังย้ำหลายครั้งปี 57 ครั้งสุดท้าย ขอสู้ในกติกา ปัดมอง ‘เศรษฐา’ เป็นคู่แข่ง
เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 9 มี.ค. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 2/2566 โดยได้ทักสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวว่า ทำไมเหลือจำนวนน้อยลง เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่าขณะนี้ต้องแยกย้ายไปลงพื้นที่หาเสียงตามพรรคการเมืองต่างๆพล.อ.ประยุทธ์ จึงถามกลับว่า สื่อฯต้องไปหาเสียงกับเขาด้วยหรือ แล้วทำไมพวกเธอจึงไม่ไปกับเขาด้วย ก่อนจะขอบคุณว่า “ขอบคุณมากเลยนะจ๊ะ” หลังจากที่ผู้สื่อข่าวระบุว่าแบ่งทีมกันทำงาน สื่อที่ทำเนียบฯ ส่วนใหญ่ตามเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรี
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงบรรยากาศการหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ในช่วงนี้ว่า ในฐานะนายกฯ ก็มองว่าทุกคนหาเสียงในสิ่งที่ตัวเองจะทำในวันข้างหน้า ตนก็ไม่อยากไปเกี่ยวข้อง ต่างคนก็ต่างหาเสียงไปกัน แต่หากจะตอบที่ไม่ใช่ในฐานะนายกฯ ในการหาเสียงตนก็บอกแล้วต้องทุกอย่างต้องระมัดระวังอย่างที่สุด ไม่ให้เกิดภาระกับประเทศในวันข้างหน้า เพราะเราแก้มาตั้งนานแล้วหลายๆเรื่องก็ดีขึ้น จะกลับไปที่เก่าทั้งหมดก็มีปัญหา
เมื่อถามถึงกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกจดหมายฉบับ 2 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็อ่านๆ อ่านไป ไม่เห็นมีอะไรใครจะเขียนก็เขียนได้ทั้งนั้น ก็คิดเอาเองแล้วกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในจดหมายมีการย้อนถึงเรื่องอำนาจนิยมและการรัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เลิกได้แล้วตั้งแต่ปีไหนมาแล้ว ผมมายืนตรงนี้มายืนด้วยอะไร รัฐธรรมนูญไม่ใช่เหรอ ด้วยระบบสภาไม่ใช่เหรอแล้วในช่วงก่อนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย ลองดูซิว่าถ้ามันไม่มีอะไรที่ทำให้ความขัดแย้งลดลงมันจะเกิดอะไรขึ้นถึงวันนี้เราจะยืนอยู่แบบนี้ได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย”
เมื่อถามว่า วันนี้บรรยากาศไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรแบบนั้นใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี ตนไม่เห็นจะมีอะไรเลยเพียงแต่ประชาชนทุกคนต้องคิดว่าเกิดอะไรขึ้นมาแล้ว ทุกอย่างจะพัฒนาได้ประเทศต้องสงบเรียบร้อย มีความสุข คือไม่มีเรื่องรุนแรงเกิดขึ้น ขออย่ากลับไปที่เดิมอีกเลย
เมื่อถามย้ำว่า แต่พล.อ.ประวิตร เขียนเรื่องนี้ 2-3 ครั้งที่ย้อนถึงเรื่องการรัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็แล้วแต่ท่าน แล้วใครจะรัฐประหาร ใครจะทำผมถาม ผมเคยพูดไปตั้งนานแล้วว่ามันครั้งสุดท้ายแล้ว มันไม่ควรจะมีอีกแล้วและมันอยู่ที่พวกเราจะช่วยกันได้อย่างไร ถ้าขัดแย้งการรุนแรงกัน ผมก็ไม่รู้มันจะแก้ปัญหาด้วยอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะผมไม่เกี่ยวแล้ว”
เมื่อถามว่าแสดงว่าหลังจากนี้ก็จะไปสู่ประชาธิปไตยในการเลือกตั้งใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนว่า แล้ววันนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยเหรอ ก็ประชาธิปไตย ทุกคนก็พยายามรักษากฎกติกากฎหมายมีทุกตัว
เมื่อถามว่า ที่มีกระแสพูดถึงเรื่องการรัฐประหารในช่วงนี้มองว่าเป็นการดิสเครดิตก่อนการเลือกตั้งหรือไม่เพราะก่อนหน้านี้นายกฯ มาแบบนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เหรอนานแล้วนะ เธอก็ถามท่านมาแบบนี้อยู่แล้ว ก็แน่นอน เขาต้องดิสเครดิตเราแน่นอน อธิบายชี้แจงไปก็หลายครั้ง สภาก็พูดอะไรก็พูดก็คิดเอาเองแล้วกัน”
เมื่อถามว่านายกฯ มองว่าวันนี้พล.อ.ประวิตร เปลี่ยนไปหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า”ก็เป็นพี่ผมเหมือนเดิมไม่มีอะไรหรอก” เมื่อถามย้ำว่า ในทางที่ออกมาสื่อสารการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็มีคนช่วยท่านเยอะอยู่แล้วนิ” เมื่อถามต่อว่ามองว่าอาจจะมาจากคนรอบข้างคำพูดที่ใช้ไม่ใช่พล.อ.ประวิตร ใช่หรือไม่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เปิดหน้าทางการเมืองเต็มตัวบอกว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลหรือไม่ ว่า “ผมไม่เคยไปแข่งอะไรกับท่าน เพียงแต่ที่พูดในครั้งก่อนนั้น อยากให้มองมุมมองภาพใหญ่ที่รัฐบาลทำตอนนี้ ทุกคนเก่งหมด ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าผมไม่มีความรู้เศรษฐกิจ แต่ตนอยู่มาหลายปีแล้วและได้ศึกษา พร้อมทั้งมีคนเก่งอยู่กับตนจำนวนมากเป็นร้อยคน”
เมื่อถามว่า ในฐานะที่อยู่พรรครวมไทยสร้างชาติมองว่าตอนนี้พรรคไหนเป็นคู่แข่งตัวจริง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่รู้เหมือนกัน ทุกพรรคแหละมั้ง เพราะทุกพรรคก็แข่งกันหมด”
เมื่อถามว่า แต่พล.อ.ประวิตร ชูจุดขายเรื่องก้าวข้ามความขัดแย้ง ในเรื่องขั้วอำนาจอนุรักษนิยมและเสรีนิยม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “แล้วมันขัดแย้งตรงไหนตอนนี้ ขั้วอะไร ผมไม่เห็นมีขั้วสักขั้ว ก็คิดกันเองหมด อย่าสร้างความสับสนอลหม่านมากนักเลย ใครพูดอะไรมาขยายหมดมันก็มีแต่เรื่อง ผมจะไม่พูดอะไรเรื่องพวกนี้มันจบไปแล้วก็จบไปแล้ว ของเก่าก็ของเก่า วันนี้เดินหน้าประเทศไปเถอะ บนท่ามกลางความสงบสุข ความเรียบร้อยของประเทศชาติไม่ดีกว่าหรือ ผมก็คิดแค่นี้ที่ผ่านมาผมก็คิดแบบนี้มาตลอด”
เมื่อถามว่า คิดว่าหากได้กลับมาจะพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ความขัดแย้งมันไม่มี จะมีตรงไหน ตนไม่เห็นมีอะไรขัดแย้งทั้งสิ้น แต่ถ้าความเห็นต่างโอเค รับได้ ถ้าความขัดแย้งมันต้องต่อยตีกันสิ ใช่ไหม ต่อยตีกันหรือทำอะไรสักอย่าง ทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้วหลายปีที่ผ่านมามันเกิดมาแล้วอย่าให้มันเกิดอีก”
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับการที่นายกฯพยายามจะสู้บนระบอบประชาธิปไตยตามกติกา แต่ก็มีคนพยายามลากนายกฯ ออกมาเล่นนอกกติกา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “อ้าว เรื่องอะไรผมจะให้เขาลากออกไปเล่า ผมก็อยู่ในกติกาของผม กติกาของประชาธิปไตย วันนี้จากต่างประเทศประเมินประเทศไทยอันดับขึ้นเรื่องประชาธิปไตยดูตรงนั้นสิ โลกลงคะแนนกันมาแล้วคะแนนเราสูงขึ้นแล้วมาบอกว่าเราไม่มีประชาธิปไตยตรงไหน ผมไม่เข้าใจ”
เมื่อถามว่า อาการมือเจ็บของนายกฯยังต้องให้ยาฆ่าเชื้ออยู่อีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังต้องให้ทุกวัน เมื่อถามว่า สามารถลงพื้นที่หาเสียงได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไปได้เพราะไปด้วยหัวใจ”
ทั้งนี้ ช่วงท้ายการให้สัมภาษณ์ ก่อนเดินขึ้นห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.ประยุทธ์ ได้หันไปจับต้นดอกแก้วด้วยมือขวาที่เจ็บ โดยเมื่อสื่อมวลชนได้ทักว่าใช้มือข้างเจ็บอีกแล้ว ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ หยุดใช้มือและก้มลงไปดมดอกแก้วที่ปลูกในกระถางระหว่างตึกไทยคู่ฟ้าและตึกภักดีบดินทร์
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ถอด Arm-Sling หรือที่ช่วยพยุงแขน เหลือเพียงเฝือกอ่อน อีกทั้วมือข้างซ้ายได้ถอดอุปกรณ์ทางการแพทย์ออกเช่นกัน