วันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สถานการณ์ตึงเครียดในกรุงฮาราเร เมืองหลวงของซิมบับเว หลังจากทหารเข้าควบคุมพื้นที่หลายจุดในเมืองหลวง พร้อมกับยึดสถานีโทรทัศน์ แซดบีซีของรัฐบาล ล่าสุดทหารซิมบับเวที่เข้ายึดพื้นที่ในตอนแรกประกาศว่าไม่ได้ก่อการรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลต่อมุ่งเป้าไปที่อาชญากรรอบตัวนายโรเบิร์ต มูการ์เบ้ ประธานาธิบดีซิมบับเว และให้ความเชื่อมั่นว่านายมูการ์เบ้และครอบครัวปลอดภัยดี

ส่วนบรรยากาศในพื้นที่ ทหารและยานรถหุ้มเกราะได้เข้าปิดกั้นถนนที่เข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภาและศาลในกรุงฮาราเร

พล.ต.เอสบี โมโย หัวหน้าหน่วยลำเลียงของซิมบับเว กล่าวผ่านสื่อว่า เรากำลังสนแต่เป้าหมายอาชญากรที่รอบตัวนายมูการ์เบ้ ซึ่งก่ออาชญากรรมจนทำให้เกิดความเลวร้ายต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อนำตัวพวกมันสู่ความยุติธรรมโดยเร็วที่สุดเพื่อบรรลุภารกิจ เราคาดหวังว่าสถานการณ์จะกลับคืนสู่สภาพปกติ

ด้านกลุ่มเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตยซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลซิมบับเว เรียกร้องให้สถานการณ์กลับสู่ประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญอย่างสันติ และยังหวังว่า การแทรกแซงของทหารจะนำไปสู่ การสถาปนาประเทศที่มั่นคง เป็นประชาธิปไตยและมีความก้าวหน้า

ส่วนนายคริส มุสวางก้า ทหารผ่านศึกผู้ทรงอิทธิพลในช่วงสงครามปลดปล่อยได้เรียกร้องให้แอฟริกาใต้ ชาติสมาชิกในแอฟริกาใต้และชาติตะวันตกมาขับเคลื่อนซิมบับเวใหม่ ซึ่งเกิดเศรษฐกิจตกต่ำมาตลอด 2 ทศวรรษ โดยสิ่งที่ถูกต้องคือประเทศนี้กำลังยืนอยู่ขอบผา มันเป็นจุดจบของบทเรียนอันเป็นเจ็บปวดและโศกเศร้าในประวัติศาสตร์ชาติอายุน้อย ซึ่งเป็นเผด็จการ ขณะที่นายมูการ์เบ้กำลังชรา ได้ยอมสยบให้กับกลุ่มหัวขโมยที่อยู่รอบตัวภรรยาของนายมูการ์เบ้

ขณะที่แหล่งข่าวของรัฐบาลซิมบับเวกล่าวว่า นายอิกนาเซียส ชอมโบ รัฐมนตรีการคลังกล่าวว่า หัวหน้ากลุ่มที่เรียกตัวเองว่า จี40 ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองในพรรคแซดเอเอ็นยู-พีเอฟ ถูกคุมตัวโดยกองทัพแล้ว