นายอนุวัฒน์ สงวนทรัพยากร หัวหน้าคณะผู้บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในงานพบนักลงทุนว่า หลังจากนี้บริษัทฯ พยายามหาลูกค้าต่างประเทศรายใหม่เข้ามาทดแทนมากขึ้น โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในด้านที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโทรคมนาคมใหม่ๆ ประมาณ 5-10 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มชัดเจนในปี 2561 ส่วนการต่อสัญญาสัญญาดาวเทียมไทยคม 4 ไทยคม 5 และไทยคม 6 นั้น คาดจะเร่งต่อสัญญาภายในไตรมาส 3/2561 ก่อนที่จะหมดอายุในเดือนกันยายน 2564 เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง แต่คาดว่าคำขออาจจะล่าช้า เพราะติดร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม. ฉบับใหม่

นายอนุวัฒน์กล่าวว่า ขณะที่ดาวเทียมไทยคม 7 และ ไทยคม 8 บริษัทฯ ยื่นเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการเพื่อพิจารณาชี้ขาดข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างบริษัทกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เรื่องอายุสัมปทานดาวเทียม โดยคาดว่าจะต้องใช้เวลาพิจารณา 1-3 ปี ส่วนดาวเทียมไทยคม 9 บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณา เพราะการยื่นขออนุญาตจากรัฐบาลทำได้ล่าช้า อาจมีแผนไปขอใช้วงจรโครงข่ายในต่างประเทศและนำมาให้บริการในไทยแทน โดยการลงทุนดาวเทียมใช้งบประมาณอยู่ที่ 7,000 ล้านบาทต่อดวง

นายอนุวัฒน์กล่าวว่า ในไตรมาส 3 นี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการดาวเทียมและบริการที่เกี่ยวเนื่อง 1,571 ล้านบาท ลดลง 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และผลประกอบการงวด 9 เดือนแรก มีรายได้จากการให้บริการดาวเทียมและบริการที่เกี่ยวเนื่อง 5,253 ล้านบาท ลดลง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการยกเลิกสัญญาการใช้บริการโครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติจากออสเตรเลีย และการหมดสัญญาการใช้บริการของทีโอทีเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา